ทำไมใครๆ ก็เชียร์ให้ ‘แบงก์ชาติ’ ลดดอกเบี้ย?

ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ขยายตัวได้ 3.2% มองผิวเผินเหมือนจะสูง เพราะเป็นระดับที่เราไม่ได้เห็นเลข “3” มานานมาก แต่ต้องบอกว่าตัวเลขนี้ “นักเศรษฐศาสตร์” ผิดหวังอย่างรุนแรง
เนื่องจากต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เดิมคาดกันว่าไตรมาสดังกล่าวเศรษฐกิจไทยน่าจะต้องโตได้ถึง 4% หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง เพราะฐานของตัวเลขปีที่แล้วต่ำมาก การที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 3.2% จึงต้องตั้งคำถามหนักๆ ว่า “เราหายป่วยจากพิษโควิดแล้วจริงหรือ?”
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยต้องบอกว่า “ล้าหลัง” จากเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนด้วยกันมาก เราอยู่แถวๆ “บ๊วย” หรือไม่ก็ “รองบ๊วย” มาตลอด ...แล้วอะไรคือสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ถ้าส่องไส้ในของ “จีดีพี” ปี 2568 หลักฐานหนึ่งที่ประจักษ์ชัดเจนของการขยายตัวในระดับต่ำ คือ การลงทุนภาคเอกชนที่ “หดตัวหนัก” ต่อเนื่อง “3 ไตรมาสซ้อน” โดยไตรมาส 2 ปี 2567 การลงทุนภาคเอกชนไทยหดตัวถึง 6.8% ไตรมาส 3 หดตัวต่ออีก 2.5% และไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะดีขึ้น เพราะยังหดตัวอีก 2.1%
การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวหนักเช่นนี้ รัฐบาลมองว่าเป็นเพราะ “ภาคเอกชนไม่มีสภาพคล่องเพียงพอจะลงทุน” ทำให้นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องขอร้องให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพื่อให้ภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยเฉพาะ SME นำเงินไปลงทุน และที่สำคัญยังขอร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงก์ชาติ) พิจารณา “ลดดอกเบี้ย” เพื่อลดภาระให้ประชาชน
วันนี้ (26 ก.พ.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ซึ่งเป็นบอร์ดชุดย่อยของแบงก์ชาติจะประชุมพิจารณาเรื่อง “ดอกเบี้ย” เราเชื่อว่า กนง. จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิม เพราะท่าทีของ “แบงก์ชาติ” ค่อนข้างแข็งกร้าวต่อเรื่องดอกเบี้ยมาโดยตลอด แต่ถ้าถามความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ กลับมีมุมมองว่า ดอกเบี้ยไทยควรต้องลง เพื่อลดภาระต้นทุนของภาคเอกชนและประชาชน แม้แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ก็ยังแนะนำให้ กนง. ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อดูแลเศรษฐกิจ
โดยรายงานฉบับล่าสุดของ ไอเอ็มเอฟ ที่เพิ่งออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แนะนำให้ กนง. ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำ และมองว่าการลดดอกเบี้ยยังช่วยเพิ่มความสามารถการชำระหนี้ของผู้กู้ได้ดีขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงต่อการก่อหนี้ใหม่ก็มีจำกัดเพราะแบงก์ไม่กล้าที่จะปล่อยกู้ ดังนั้นการประชุมในวันนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าจะมี “เซอร์ไพรส์” จากทาง กนง. หรือไม่!