ฟิลิปปินส์ Top 1 กาสิโน ชัยชนะบนหายนะ!

เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า หากเมืองไทยมีกาสิโนและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย จะมีสภาพสังคมและเศรษฐกิจเช่นใด ผู้เขียนขอนำเสนอฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีบริบททางสังคมเศรษฐกิจ และการแพร่หลายของการคอร์รัปชัน รวมถึงมีลักษณะอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายใกล้เคียงกับที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดัน
จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้การพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย พ่วงมากับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยมีการวางเป้าให้มีสถานบันเทิงครบวงจรซึ่งมีกาสิโนในหลายจังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ทั้งๆ ที่มิได้มีการศึกษาอย่างจริงจังและรอบด้านเกี่ยวกับการมีธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศ และไม่เคยมีการศึกษาผลกระทบใดๆ ของการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายเลย
จากการสำรวจขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติพบว่า ในขณะที่เดนมาร์กและสิงคโปร์มีการคอร์รัปชันต่ำที่สุดในโลกในปี 2567 ลำดับที่ 1 และ 3 (ได้คะแนนที่ 90 และ 84 ตามลำดับ โดยคะแนนยิ่งมาก หมายถึง การคอร์รัปชันน้อย) ไทยอยู่ลำดับที่ 107 ได้คะแนน 34 ใกล้เคียงกับฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่ลำดับที่ 114 ได้คะแนนที่ 33
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีธุรกิจกาสิโนนับแต่ปี 2519 ในยุคประธานาธิบดีแฟร์ดินานด์ มาร์กอส ในระยะแรกดำเนินการโดย Philippines Amusement and Gaming Corporation (PAGCOR)
PAGCOR เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้สำนักงานประธานาธิบดี จากนั้นในปี 2551 ได้เปลี่ยนเป็นระบบให้ใบอนุญาตแก่เอกชนในการสร้างและดำเนินธุรกิจ Integrated Resort (IR) ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย ส่งผลให้อุตสาหกรรมกาสิโนในฟิลิปปินส์เติบโตอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันมีธุรกิจกาสิโนมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โดยกาสิโนแบบดั้งเดิมที่ดำเนินการโดย PAGCOR จะมีฐานลูกค้าเป็นคนสูงอายุ ในขณะที่กลุ่มลูกค้าของกาสิโนใน IR จะเป็นคนวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้อนุญาตให้เอกชนให้บริการการพนันออนไลน์แก่ชาวฟิลิปปินส์ อาทิ กาสิโนออนไลน์ พนันกีฬาออนไลน์ ซึ่งก็อยู่ภายใต้การดูแลของ PAGCOR เช่นกัน
จากการให้สัมภาษณ์ของประธานบอร์ดของ PAGCOR พบว่า ในปี 2567 รายได้จากอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์มีมูลค่าเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นคือมี Gross Gaming Revenue (GGR) สูงกว่า 350 พันล้านเปโซ
เมื่อพิจารณาเฉพาะไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 พบว่า รายได้สูงขึ้นมากกว่า 400% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 โดยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มาจาก local players ซึ่งก็หมายถึงผีพนันชาวฟิลิปปินส์นั่นเอง
ประธานบอร์ด PAGCOR ยังเคยกล่าวอย่างภูมิใจเกี่ยวกับความสำเร็จของอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายว่า หากสิงคโปร์ไม่มีแนวโน้มเปิด IR แห่งใหม่ ฟิลิปปินส์จะเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมกาสิโนในภูมิภาคอาเซียน
แม้ว่าอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในฟิลิปปินส์จะมีกำไรมหาศาล แต่ฟิลิปปินส์ก็ยังเป็นประเทศยากจน คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ เป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรง เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1.ทรัพยากรมนุษย์ของฟิลิปปินส์จำนวนมากไม่มีคุณภาพ เพราะมีชีวิตที่พัวพันกับการพนัน โดยจำนวนไม่น้อยตกงาน และหลายกรณีกลายเป็นอาชญากร
อาทิ โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญในปี 2560 ที่ฆาตกรซึ่งในอดีตเป็นข้าราชการกระทรวงการคลัง แต่ต้องตกงานเพราะติดการพนันกาสิโนอย่างหนัก ได้บุกปล้นกาสิโน และกราดยิงผู้คนล้มตายรวม 37 ราย
2.ฟิลิปปินส์มีการทุจริตคอร์รัปชันในระดับวิกฤติ จนทำให้ไม่สามารถควบคุมปัญหาอาชญากรรมและปัญหาทางสังคมที่เกิดจากการพนันกาสิโน เช่น การฟอกเงิน การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ฯลฯ ส่งผลให้ไม่สามารถดึงการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และแรงงานทักษะสูง
กระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์ได้พิจารณาผลกระทบของอาชญากรรมต่อเศรษฐกิจ อ้างอิงจากการศึกษาใน 67 ประเทศ พบว่า เหตุการณ์อาชญากรรม 1 ครั้งต่อประชากร 100,000 คน จะทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง 1% และอาชญากรรมจากการพนันทำให้การลงทุนจากต่างประเทศลดลง 16-26 พันล้านเปโซ
3.เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงที่ผ่านมาพบว่า ประเทศกำลังพัฒนาที่มีการแพร่หลายของการคอร์รัปชันในระดับรุนแรง มักปรากฏนโยบายปรับลดอัตราภาษี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน โดยอ้างเหตุผลเรื่องการดึงดูดการลงทุนจากเอกชน/เพิ่มการจ้างงานในประเทศ
สำหรับกรณีฟิลิปปินส์เมื่อต้นปี 2568 ประธานบอร์ด PAGCOR ระบุว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของธุรกิจพนันออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่า ธุรกิจเหล่านี้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านอื่นสูง รวมถึงเพื่อลดการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย
หรือแม้แต่การเก็บภาษีจากธุรกิจ Integrated Resort (IR) ที่มีบ่อนกาสิโนก็เช่นกัน โดย IR ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับ entertainment complex ที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร สวนน้ำ ชอปปิงมอลล์และที่ขาดไม่ได้คือบ่อนกาสิโน
การศึกษาของศูนย์การวิจัยเรื่องภาษีของประเทศฟิลิปปินส์ รายงานว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์เก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนในระดับที่ต่ำมาก อีกทั้งมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีให้กับธุรกิจ IR อย่างต่อเนื่อง
จนทำให้รัฐเก็บภาษีจากธุรกิจ IR ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย ได้เพียงประมาณร้อยละ 3-5 ของรายได้รวมของอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น
อาทิ ในปี 2561 อุตสาหกรรม IR ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย มีรายได้รวม 138.49 พันล้านเปโซ แต่รัฐจัดเก็บภาษีได้เพียง 7,161.92 ล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 5.17 ของรายได้รวมของอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น (ตารางประกอบ)
การที่รัฐบาลฟิลิปปินส์มีนโยบายจัดเก็บภาษีจากธุรกิจเหล่านี้ในอัตราที่ต่ำ ทำให้บริษัทข้ามชาติ และอภิมหาเศรษฐีของฟิลิปปินส์ ซึ่งนอกจากจะเป็นเจ้าของธุรกิจเครือยักษ์ใหญ่ของประเทศแล้ว ยังเป็นเจ้าของ IR ที่มีกาสิโนรวมอยู่ด้วย ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการเสียภาษีที่น้อย
ในขณะที่ประเทศในภาพรวมเกิดผลกระทบหลายด้านอยู่ในขั้นหายนะ เพราะรัฐมีรายได้ที่จะใช้เป็นงบประมาณในการบริหารประเทศในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว หรือมาเก๊าที่จัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ จากธุรกิจกาสิโนในระดับสูง เช่น มาเก๊าเก็บที่ร้อยละ 40 ของ Gross Gaming Revenue (GGR)
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการแพร่หลายของอุตสาหกรรมการพนัน ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการลักพาตัว การเรียกค่าไถ่ การค้ามนุษย์ การฆาตกรรม
ดังนั้น จึงไม่ต้องกล่าวถึงงบประมาณที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอื่นใด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ หรือแม้แต่งบประมาณที่จะใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
อุตสาหกรรมกาสิโนภายใต้บริบทการวางนโยบายด้านภาษี ที่เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนที่เป็นเจ้าของกาสิโนและการพนันออนไลน์ จึงซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์ให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ในขณะที่อภิมหาเศรษฐีได้รับกำไรมหาศาลจากการดำเนินธุรกิจกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย แต่คนฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ยังยากจนข้นแค้น ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้
กล่าวโดยสรุป ความสำเร็จของอุตสาหกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในฟิลิปปินส์ คือ หายนะของชาวฟิลิปปินส์ทั้งชาติ...แล้วคนไทยต้องการเช่นนั้นหรือ?!