ทุนจีนถล่มไทย ‘วิกฤติ’ใหญ่ที่ไทยต้องรับมือ 

ทุนจีนถล่มไทย ‘วิกฤติ’ใหญ่ที่ไทยต้องรับมือ 

ประเทศไทยกำลังเผชิญปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ ในภาคการลงทุนระหว่างประเทศ เมื่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยข้อมูลว่า นักลงทุนจีนจำนวนมากเลือกจดทะเบียนบริษัทในสิงคโปร์ ก่อนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐ ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการลงทุนระหว่างประเทศในบริบทของสงครามการค้าที่ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง เป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ดังนั้นหน่วยงานที่ดูแลด้านส่งเสริมการลงทุนของประเทศ อย่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ควรวางกลไกบางอย่าง เพื่อไม่ให้บริษัทไทยเสียเปรียบ ให้บริษัทไทยได้มีโอกาสเพิ่มอำนาจต่อรอง ควบคุมทิศทางการลงทุนให้สอดคล้องผลประโยชน์ของประเทศมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐควรเร่งหารือ เพื่อแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ต่างๆ จูงใจให้นักลงทุนจีนเข้ามาจดทะเบียนในประเทศไทยโดยตรง แนวทางนี้ ข้อดี คือ ความโปร่งใส เป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจโดยตรงระหว่างสองประเทศ เพิ่มโอกาสถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการไทยด้วย

รัฐบาลไทยควรตระหนักว่า การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัยความสมดุลระหว่างการส่งเสริมการลงทุน และการปกป้องผลประโยชน์ประเทศ เบื้องต้นการปรับปรุงระบบสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการลงทุนให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา ทั้งต้องยึดหลักความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาว การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีน ด้วยมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจนสำหรับบริษัทที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะแรงงานไทยเป็นแนวทางที่ควรถูกผลักดัน

อีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ลดความซับซ้อนของกระบวนการจดทะเบียนและการดำเนินธุรกิจในไทย ปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติยังต้องเผชิญกับขั้นตอนทางราชการที่ยุ่งยาก และใช้เวลานาน เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายรายเลือกจดทะเบียนในประเทศที่มีระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่า การปฏิรูประบบราชการและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการอนุมัติต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนยังเป็นเรื่องสำคัญ การปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในบริบทสงครามการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมกันกำหนดทิศทางและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนของจีนได้เต็มที่ โดยยังคงรักษาอธิปไตยทางเศรษฐกิจและผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศไว้ได้