ส่องโปรเจกต์ลงทุน 'สุวรรณภูมิ' 1.4 แสนล้าน ผุดเทอร์มินัลใหม่

ทอท.เปิดแผนลงทุน "ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ" ทุ่ม 1.4 แสนล้านบาท รองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี สร้างส่วนต่อขยาย - เทอร์มินัลด้านทิศใต้ และรถไฟฟ้าไร้คนขับ
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประมาณการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567 - ก.ย. 2568) คาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น
- ผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17%
- ผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.18%
โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงเป็นประตูด่านแรกที่สำคัญในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทย และปัจจุบันเริ่มประสบปัญหาความแออัด ส่งผลให้ ทอท.ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในการรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดได้พัฒนาอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคาร SAT-1
ซึ่งอาคารแห่งนี้ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานสากล รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน พร้อมระบบขนส่งอัตโนมัติ (Automated People Mover – APM) เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก อาคาร SAT-1 ยังได้รับรางวัล Prix Versailles ประจำปี 2024 สาขาสถาปัตยกรรมดีเด่นด้านรูปลักษณ์อาคาร (Exterior) จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งยกย่องให้เป็นสนามบินที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2567 อีกทั้งยังพัฒนาทางวิ่งเส้นที่ 3 เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินได้สูงสุด 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ทอท.ยังคงมีแผนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่เป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี และขึ้นเป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่รองรับผู้โดยสารสูงสุดในโลก และพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินชั้นนำของโลก
โดย ทอท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับใหม่ ระยะ 10 ปี (2568 - 2578) มุ่งแก้ปัญหาเร่งด่วน คือ การเพิ่มพื้นที่รองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แก้ปัญหาคอขวดบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง และต้องเพิ่มขีดความสามารถให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 150 ล้านคนต่อปี ซึ่งประเมินวงเงินลงทุนรวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท ประกอบด้วย
โครงการส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินราว 12,000 ล้านบาท
คาดว่าจะได้รับผู้รับจ้างในเดือน ก.ค.2568 พร้อมผลักดันก่อสร้างทันทีในเดือน พ.ย.2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2571 เพื่อขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal) รองรับสูงสุด 65 ล้านคนต่อปี
โครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) โครงการทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 4 และรถไฟฟ้าไร้คนขับ (APM) เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท
คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการเหล่านี้พร้อมกันในปี 2570 ใช้เวลาสร้าง 6 ปี แล้วเสร็จเปิดปี 2576 ซึ่งโครงการเหล่านี้จะรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านคนต่อปี ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี ขึ้นเป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่รองรับผู้โดยสารสูงสุดในโลกตามเป้าหมาย
สำหรับการออกแบบอาคาร South Terminal จะช่วยเพิ่มพื้นที่จอดรถรับ-ส่งด้านหน้าอาคารให้ยาวขึ้นประมาณ 2 กิโลเมตร ในลักษณะรูปตัว U ซึ่งรถที่มารับ-ส่งสามารถกระจายจอดได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันบริเวณอาคารนี้ ส่วนตรงกลางตัว U จะมีห้างและพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่รูปแบบ Mega Terminal พื้นที่ประมาณ 2 แสนตารางเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารก่อนเดินทางและประชาชนทั่วไปสามารถมาท่องเที่ยว รวมทั้ง APM เป็นระบบขนส่งหลักเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจาก Main Terminal และ South Terminal