กอช. จับมือ ShopeePay เพิ่มช่องทางสมัครออมเงิน พร้อมรัฐสมทบ

กอช. จับมือ ShopeePay เพิ่มช่องทางสมัครออมเงิน พร้อมรัฐสมทบ

กอช. จับมือ ShopeePay เพิ่มช่องทางสมัครสมาชิก กอช. พร้อมเริ่มออมเงิน โดยมีรัฐบาลช่วยสมทบ ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

วันที่ 17 มี.ค.2568 นายผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับบริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นการขยายช่องทางการให้บริการด้านการออมและสนับสนุนการสมัครสมาชิก กอช. ผ่านแอปพลิเคชัน ShopeePay 

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ShopeePay เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วประเทศ ในการใช้เป็นช่องทางการซื้อขายสินค้าเท่านั้น และเป็นศูนย์กลางสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและแรงงานอิสระให้เติบโตในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล โดยความร่วมมือระหว่าง กอช. และ ShopeePay จะเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้ขายและผู้ซื้อบนแพลตฟอร์มที่เป็นแรงงานนอกระบบ สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. และโอนเงินเพื่อออมได้สะดวกมากขึ้น
 

​​"กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงินของประชาชนมาโดยตลอด เราต้องการให้ทุกคนสามารถวางแผนอนาคตทางการเงินได้อย่างมั่นคง และใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ เชื่อว่าความร่วมมือนี้สามารถต่อยอดไปสู่ความร่วมมืออื่นๆ ในอนาคต เพื่อให้ประชาชนมีระบบการออมที่ทันสมัย" 
​​
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยประกอบอาชีพอิสระและการทำงานหลายอาชีพพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Multi-Jobbers มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลุ่มอาชีพดังกล่าวก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านการเงิน โดยเฉพาะความไม่พร้อมของรายได้และข้อจำกัด ด้านสวัสดิการส่งผลให้ระยะยาวอาจขาดหลักประกันทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ 
 

ทั้งนี้ กอช. เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีรูปแบบการออมเงินที่ยืดหยุ่น ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงทางการเงิน ให้กับแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี และไม่มีสิทธิสวัสดิการบำเหน็จบำนาญใดๆ รองรับ สามารถออมเงินได้ตามความสมัครใจ โดยเริ่มต้นออมเงินขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุดไม่เกินปีละ 30,000 บาท และได้รับการสมทบจากรัฐสูงสุด 50 – 100 % ของเงินออม หรือไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี ตามช่วงอายุ

อีกทั้งเงินออมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้สูงสุด 30,000 บาท และยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ยจาก 7 ธนาคาร ณ วันที่สมาชิก มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

นายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนไทยสามารถจัดการและวางแผนทางการเงินได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับกองทุนการออมแห่งชาติในการสนับสนุนให้การออมเพื่ออนาคตเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้มากขึ้น

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่ชัดเจนว่าคนไทยให้ความสำคัญกับบริการทางการเงินดิจิทัล ไม่เพียงแค่การใช้จ่าย แต่รวมถึงการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยขยายโอกาสทางการเงินให้กับประชาชนไทยได้อย่างทั่วถึง และร่วมกันสร้างอนาคตที่มั่นคงสำหรับทุกคน