ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ จากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ หลังจากทสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ และแผนใหม่ของโอเปก+ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้น
รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกวันศุกร์ (21มี.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 16 เซ็นต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 72.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตล่วงหน้า (ราคาน้ำมันดิบWTI) ปรับตัวสูงขึ้น 21 เซ็นต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 68.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบโลก เพิ่มขึ้นในวันศุกร์ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ และแผนใหม่ของโอเปก+ สำหรับ 7 ประเทศสมาชิกที่จะลดการผลิตลง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้น
ในรอบสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้น 2.24% และน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ WTI เพิ่มขึ้น 1.64%
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พุ่งเป้าไปที่โรงกลั่นน้ำมันอิสระแห่งหนึ่งของจีน รวมถึงหน่วยงานและเรือ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำมันดิบจากอิหร่านให้กับจีน
นับเป็นการคว่ำบาตรอิหร่านรอบที่ 4 ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง โดยทรัมป์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้มาตรการกดดันสูงสุดต่อเตหะรานอีกครั้ง เพื่อกดดันการส่งออกน้ำมันของประเทศนี้ให้เหลือศูนย์
นักวิเคราะห์จากธนาคาร ANZ Bank กล่าวว่าคาดว่าการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะลดลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเนื่องจากการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
ด้านบริษัทเคปเลอร์ (Kpler) ผู้ให้บริการติดตามเรือ คาดการณ์การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านไว้ที่มากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรอาจส่งผลให้มีการปรับตัวเลขดังกล่าว
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากแผนใหม่ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกพลัส (OPEC+) ที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี โดยให้สมาชิก 7 ประเทศลดการผลิตเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการผลิตที่มากกว่าระดับที่ตกลงกันไว้ แผนดังกล่าวจะประกอบด้วยการลดการผลิตน้ำมันรายเดือนระหว่าง 189,000 ถึง 435,000 บาร์เรลต่อวัน และจะมีผลจนถึงเดือนมิถุนายน 2026
อามีนา บาคร์ หัวหน้าฝ่ายพลังงานตะวันออกกลางของ Kpler กล่โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย X ว่าแผนดังกล่าวจะช่วยลบล้างบางส่วนของการเพิ่มปริมาณการผลิตที่OPEC+ ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนหน้า
เมื่อต้นเดือนนี้ OPEC+ ได้ยืนยันว่าสมาชิก 8 ประเทศจะดำเนินการเพิ่มปริมาณการผลิตรายเดือน 138,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นการกลับลำแผนการลดการผลิต 5.85 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ตกลงกันไว้ในหลายรอบนับตั้งแต่ปี 2022 เพื่อสนับสนุนตลาดน้ำมันดิบ