เจาะลึกสัมพันธ์ 'พีระพันธุ์-พล.ท.เจียรนัย' เบื้องหลังนโยบายพลังงาน

ตามที่รับรู้กันจากกรณีงานประมูลขุด-ขนดินถ่านหินเหมืองแม่เมาะ ว่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) มีหนังสือสั่งให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระงับการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างงานรับเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะไว้จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเสร็จสิ้น 

ด้วยมีสาเหตุมาจาก พลโทเจียรนัย วงศ์สอาด กรรมการการไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือคัดค้านมาถึงรัฐมนตรีฯ แล้วนั้น

ทั้งนี้ เมื่อทำการตรวจสอบดูจึงพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจว่า พลโทเจียรนัย กลับมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและใกล้ชิดกับนายพีระพันธุ์ มากกว่าที่หลายคนคาดคิด เสมือนเป็นบุคคลในครอบครัว ที่นายพีระพันธุ์ไว้ใจให้เป็นผู้ดำเนินการต่างๆ แทนได้ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ดังตัวอย่างปรากฏ เช่น

• พลโทเจียรนัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามคำสั่งกระทรวงพลังงาน วันที่ 17 กันยายน 2567 ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา เสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะ ติดตามและประสานงานกับส่วยราชการในสังกัดกระทรวงพลังงาน รวมทั้งปฏิบัติภารกิจตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมอบหมาย  

• พลโทเจียรนัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็น กรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่รัฐมนตรีฯ แต่งตั้ง เกือบ 20 ชุด ตั้งแต่เรื่องน้ำมัน ไฟฟ้า อีวี โซลาร์ ปาล์มน้ำมัน และการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,600 เมกะวัตต์
• พลโทเจียรนัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็น กรรมการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรรมการ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ซึ่งทั้ง 2 แห่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงพลังงาน
• พลโทเจียรนัย นั่งเป็นกรรมการผู้อำนาจลงนาม ในบริษัทส่วนตัวของนายพีระพันธุ์ อีกหลายแห่ง ได้แก่

1. บริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด (ถือหุ้นโดย นายพีระพันธุ์ 73.56%)

2. บริษัท พี แอนด์ เอส แลนด์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ถือหุ้นโดย นายพีระพันธุ์ 93%)

3. บริษัท เอสพี สมาร์ท โฮม จำกัด (ถือหุ้นโดย บริษัท รฟีโสภาค จำกัด 99.99%)

ส่วน บ.รฟิโสภาค เป็นบริษัทที่นายพีระพันธุ์และครอบครัว ถือหุ้นรวมกัน 100%)

ดังนั้น จึงรียกได้ว่า พลโทเจียรนัย เป็นหนึ่งในกุนซือข้างกายของนายพีระพันธุ์ มาตั้งแต่สมัยพรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และเรื่อยมาจนถึงรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งปรากฏว่า พลโพเจียรนัย จะได้รับตำแหน่งในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับนายพีระพันธุ์เสมอ

นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า นายพีระพันธุ์ มีการนำพวกพ้อง คนใกล้ชิด สนิทสนม มาทำงานในลักษณะเดียวกันอีกหลายคน ที่เห็นได้ชัด คือ นายสยาม บางกุลธรรม ที่เป็นบุคคลข้างกาย เดินตามติดนายพีระพันธุ์ ไปทุกแห่งหน ซึ่งนายสยาม ถือว่าได้รับความไว้วางใจให้นั่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในใบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด ของนายพีระพันธุ์ เช่นกัน

ในขณะนี้ การตราจสอบกรณีขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะได้เสร็จสิ้นแล้ว มีข้อสรุปว่า ไม่พบข้อทุจริต ส่วนข้อโต้แย้งในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่องของคู่กรณีที่จะดำเนินการต่อไปตามสิทธิทางกฎหมายเอง หรืออีกนัย คือ รัฐมนตรีฯ ไม่มีอำนาจมาก้าวก่ายการจัดซื้อจัดจ้าง นั่นเอง 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟผ.ได้ดำเนินการตามกระบวนการอย่างถูกต้องครบถ้วน โดยเปิดโอกาลให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้แพ้ประมูล ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมาย ซึ่งผลปรากฏออกมาว่า การอุทธรณ์ของ ITD ฟังไม่ขึ้น แม้ว่า ITD จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในเวลาต่อมาและขอคุ้มครองชั่วคราวคำตัดสินอุทธรณ์ของ กฟผ. 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวของ ITD เพราะไม่ปรากฏว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เอกสารแนบ)

แล้วแบบนี้ นายพีระพันธุ์ กับพวก ควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดของตนเอง อย่างไร ???