ทรัมป์ขู่เก็บภาษีกับประเทศที่ซื้อน้ำมันเวเนซุเอลา กดดันตลาด

ทรัมป์ขู่เก็บภาษีกับประเทศที่ซื้อน้ำมันเวเนซุเอลา กดดันตลาด

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1% ในวันจันทร์ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

รอยเตอร์ รายงานตลาดน้ำมันดิบโลกวันจันทร์ ( 24 มี.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 84 เซ็นต์ หรือ 1.2% อยู่ที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐ (WTI) เพิ่มขึ้น 83 เซ็นต์ หรือ 1.2% อยู่ที่ 69.11 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1% ในวันจันทร์ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาถูกรั้งไว้ เนื่องจากสหรัฐให้เวลาบริษัทผู้ผลิตน้ำมัน Chevron จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคมในการยุติการดำเนินธุรกิจและการส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลา ทรัมป์ให้เวลา Chevron 30 วันตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมในการยุติใบอนุญาตทำธุรกิจในประเทศดังกล่าว

การเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อ Chevron ได้บ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงกดดันให้กับผู้บริโภคน้ำมันเวเนซุเอลามากขึ้น แม้ว่ายังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลทรัมป์จะบังคับใช้ภาษีนำเข้านี้อย่างไร

แหล่งข่าวเผยว่ากลุ่มโอเปกพลัส( OPEC+) มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนพฤษภาคมตามแผนต่อจากเดือนเมษายน ขณะที่การเจรจายังคงดำเนินต่อไปเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งอาจส่งผลให้อุปทานหรือซัพพลายน้ำมันดิบของรัสเซียเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น

“เราเห็นตลาดช็อกเล็กน้อยจากอุปทานที่ลดลงของเวเนซุเอลาในตลาดโลก ดังนั้นจึงเป็นแรงหนุนอย่างแน่นอน” เดนนิส คิสเลอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายเทรดของกลุ่มการเงิน BOK Financial กล่าว พร้อมเสริมว่านักลงทุนกำลังจับตาดูมาตรการเข้มงวดกับอิหร่านเช่นกัน

เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ซึ่งตั้งใจจะล้มการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งรวมถึงมาตรการที่กระทรวงการต่างประเทศระบุว่าเป็นมาตรการแรกของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายที่ “โรงกลั่นกาน้ำชา” ของจีนที่แปรรูปน้ำมันดิบอิหร่าน

ราคาน้ำมันดิบในตลาดอ้างอิงทั้งสองปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ และบันทึกการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังพุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์ หลังจากมีสัญญาณว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังใช้แนวทางที่รอบคอบมากขึ้นในการขึ้นภาษีกับคู่ค้า

เมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะมีความยืดหยุ่นในการขึ้นภาษี และหัวหน้าผู้แทนการค้าระดับสูงของเขาวางแผนที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จีน ทรัมป์กล่าวในวันจันทร์ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เขาจะประกาศอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ อะลูมิเนียม และเวชภัณฑ์

เขายังเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม และสามารถกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันได้

เงินเฟ้อยังคงสูงยืดเยื้อ

นายราฟาเอล บอสทิค ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าความก้าวหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อจะช้าลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะส่งผลให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25 %เท่านั้นภายในสิ้นปีนี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐและรัสเซียอยู่ที่ซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงในยูเครน โดยวอชิงตันยังตั้งเป้าไปที่ข้อตกลงหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ  ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงในส่วนอื่นๆ ยังไม่ชัดเจน

“ความกลัวว่าน้ำมันดิบของรัสเซียจะกลับเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่สำคัญที่สุดที่เราประสบมา” คิสเลอร์กล่าวเสริม

แหล่งข่าว 3 รายเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า OPEC+ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยกลุ่มโอเปก (OPEC) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย มีแนวโน้มที่จะยึดตามแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ทรงตัวและแผนการบังคับให้สมาชิกบางส่วนลดการสูบน้ำมันเพื่อชดเชยการผลิตที่มากเกินไปในอดีต

กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 40% ของโลก มีกำหนดเพิ่มการผลิต 135,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคม

OPEC+ ได้ลดการผลิตลง 5.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเท่ากับประมาณ 5.7% ของอุปทานทั่วโลก โดยดำเนินการลดการผลิตหลายครั้งตั้งแต่ปี 2022 เพื่อสนับสนุนตลาดน้ำมัน