กรมบัญชีกลาง เตือนใช้สิทธิค่ารักษาผิดปกติ เจอระงับสิทธิทันที

กรมบัญชีกลาง เตือนผู้รับสิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล หากพบใช้เบิกผิดปกติ สั่งระงับสิทธิทันที พร้อมเร่งแก้กฎหมายเพิกถอนสิทธิผู้ร่วมขบวนการ
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการทุจริตยาใน โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ที่นำไปจำหน่ายต่อให้กับบุคคลภายนอก จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริต เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2568
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความโปร่งใส และพร้อมให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของ บก.ปปป. อย่างเต็มที่ รวมถึงการให้ข้อมูลและเอกสารทางการเงินที่เกี่ยวข้อง
นางแพตริเซีย กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลและข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าอยู่ในขบวนการทุจริต และพบว่า มีผู้กระทำพฤติกรรมการใช้สิทธิที่ผิดปกติอย่างชัดเจนจำนวนหนึ่ง ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการระงับสิทธิในระบบเบิกจ่ายตรงสวัสดิการรักษาพยาบาลทันที โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามระเบียบของทางราชการต่อไป
สำหรับแนวทางในการป้องกันเหตุในลักษณะดังกล่าว กรมบัญชีกลางจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบว่ามีการดำเนินการลักษณะนี้ในโรงพยาบาลอื่นๆ อีกหรือไม่ หากพบว่ากระทำการทุจริตจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้เร่งพัฒนาระบบการเชื่องโยงข้อมูลค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถตรวจสอบประวัติการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว รวมถึงระบบแจ้งเตือนกรณีบุคคลที่มีการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ผิดปกติให้แก่โรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อเป็นข้อมูลในการเฝ้าระวังการให้บริการรักษาพยาบาลแก่บุคคลดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค. 2568
อธิบดีกรมบัญชีกลางยังกล่าวถึงความร่วมมือกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขและกำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีความถูกต้องและเหมาะสมภายใต้งบประมาณที่ได้รับ
นางแพตริเซีย กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายยังไม่สามารถเพิกถอนสิทธิสวัสดิการในฐานะบุคคลในครอบครัวของผู้กระทำการทุจริตได้ กรมบัญชีกลาง จึงมีแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบตามหลักนิติธรรม นิติรัฐ และมนุษยชน โดยกรมบัญชีกลางจะเร่งดำเนินการยกร่างกฎหมายเพื่อเสนอตามขั้นตอนต่อไป
“การดำเนินการอย่างเด็ดขาดของกรมบัญชีกลางในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ที่คิดจะแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการใช้สิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของรัฐบาลว่า จะต้องถูกตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด”