กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดขึ้นทะเบียน ผู้ให้บริการทางการเกษตร

เทคโนโลยี มีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนการผลิต แต่ด้วยต้นทุนที่สูง รวมถึงการใช้งาน ที่ยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทำให้เกษตรกรเลือกการว่าจ้าง
KEY
POINTS
- แนวโน้
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมสาขาเกษตรกรรม หรือ จีดีพีด้านการเกษตร ปี 2566 สาขาบริการทางการเกษตร มีสัดส่วน 3% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมสาขาเกษตรกรรม มีมูลค่าประมาณ 46,000 ล้านบาท ปี 2567 มีแนวโน้มของปริมาณการใช้บริการทางการเกษตร ผ่านเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 0.3 - 1.3% จากเหตุปัจจัยข้อจำกัด คือ แรงงาน เวลา ทุน
แนวโน้มของปริมาณการใช้บริการทางการเกษตรผ่านเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร พบว่าเนื่องจากเทคโนโลยีทางการเกษตรมีราคาแพง ทำให้เกษตรกรรายย่อยเข้าถึงได้ยาก และใช้ระยะเวลาจุดคุ้มทุนนาน ภาวะขาดแคลนแรงงาน และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งกฎระเบียบมาตรฐานสินค้า ที่ต้องยกระดับกระบวนการผลิตเป็นเกษตรแม่นยำ Precision Farming รวมถึงแนวโน้มตลาดที่ทำให้ความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น รูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy)จึงเป็นแนวทางที่ภาครัฐเข้ามาบริหารจัดการ ให้ได้รับการตอบสนองเพิ่มขึ้น สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสูงสุด เพื่อให้ปัจจุบันและอนาคตที่ดีกว่า
โดย ในปี 2567 ได้พัฒนา “เครือข่ายบริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรร่วมกันของชุมชน” ให้เกิดระบบ Sharing Economy ในท้องถิ่น ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร โดยไม่ต้องลงทุนซื้อด้วยตนเอง ลดภาระการลงทุนซ้ำซ้อนและชั่วโมงการทำงานต่ำของเครื่องจักรกลการเกษตร และพัฒนาเครือข่ายบริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรร่วมกันของชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเกี่ยวกับการประกอบกิจการในด้านการเกษตร พ.ศ. 2567
กรมส่งเสริมการเกษตร ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ที่รับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากภาครัฐ จึงได้พัฒนาระบบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร (Agri Service Provider) เพื่อวางรากฐานการจัดระเบียบผู้ให้บริการทางการเกษตร โดยเกษตรกร มีทางเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม กับความต้องการของตนเอง ทั้งด้านราคา เวลา และคุณภาพ เพื่อได้รับบริการที่ดีกว่าเดิม ด้านผู้ให้บริการ เกิดการแข่งขันด้านคุณภาพ ส่งผลให้ผู้จ้างยินดีที่จะจ่ายเพื่อให้ได้รับบริการที่มีมาตรฐาน
สำหรับคุณสมบัติผู้จดแจ้ง เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือ ผู้ประกอบการ ที่มีเครื่องจักรกลทางการเกษตรไว้ในครอบครอง และมีความประสงค์จะให้บริการ สามารถจดแจ้งผ่านออนไลน์ ได้ที่ ระบบการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร หรือดาวน์โหลดผ่าน play store ระบบแอนดรอยด์ ได้ที่ แอพพลิเคชั่น Agri Service Provider หรือยื่นแบบได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งใกล้บ้านท่าน ตามหมวดให้บริการในระบบ ประกอบด้วย ก่อนการผลิต เช่น ปรับหน้าดิน ยกร่อง ขุดร่องน้ำ ระหว่างการผลิต เช่น โดรนเพื่อการเกษตร หลังการผลิต เช่นเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว/พืชไร่, นักคัด/นักตัดผลไม้, ขนส่งผลผลิต งานบริการ เช่น ระบบน้ำอัตโนมัติ
เป้าหมายสำคัญ คือ เกษตรกรแปลงใหญ่, ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.), Young Smart Farmer, Smart Farmer, วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ที่ให้บริการทางการเกษตรประเภทต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร นั้น ต้องไม่แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ต้องยินยอมการให้ข้อมูลกับภาครัฐ เพื่อนำไปพัฒนาระบบ ทั้งนี้เพื่อใหบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้คือ ผลิตภาพการผลิตภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้น เกิดระบบที่รองรับธุรกิจบริการภาคเกษตรใหม่ (Productive Application) ภาครัฐมีฐานข้อมูลผู้ให้บริการทางการเกษตร GDP สาขาบริการทางการเกษตรเติบโตขึ้น
"รัฐบาล มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture & Food Hub) เน้นการพัฒนา เกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร นี้ จึงเป็นอีกช่องทางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขับเคลื่อนผ่านกลไก การยกระดับสินค้าเกษตรสู่การเพิ่มรายได้ การเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรและคนในภาคเกษตร”
สำหรับกลุ่มตัวอย่าง เกษตรกรที่มีความประสงค์สมัครเข้าระบบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร (Agri Service Provider) คือ นายสันติภาพ จุลิวัลลี ประธานแปลงใหญ่พืชผัก ม.2 ต.ท่าดินดำ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี มีประสบการณ์ในการทำงานด้านเกษตรกรรม 9 ปี เปิดให้บริการเครื่องจักรกลให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันประสบการณ์ในการให้บริการทางการเกษตร 5 ปี พื้นที่บริการ 9,800 ไร่ มีจำนวนเครื่องจักรที่พร้อมจะให้บริการ 9 เครื่อง เช่น รถแทรกเตอร์ ขนาด 50 แรงม้า พร้อมระบบ ระบบเทเลเมติกส์ รถแทรกเตอร์ ขนาด 32 แรงม้า รถแทรกเตอร์ขนาด 21 แรงม้า โดรนสำหรับการเกษตรขนาด 10 ลิตร 1 เครื่อง เครื่องจอบหมุนพรวนดินแห้ง ขนาด 180 เซนติเมตร 1 เครื่อง เครื่องยกร่องปลูกแบบปรับขนาด 60-160 เซนติเมตร 1 เครื่อง เครื่องหยอดเมล็ดข้าวโพดแบบ 3 แทรก 1 เครื่อง เครื่องหยอดเมล็ดข้าวโพดแบบ 2 แทรก 1 เครื่อง เครื่องปลูกอ้อยโรงงานแบบ ชนิดแถวเดี่ยว 1 เครื่อง และสามารถให้บริการแบบ One Stop Service
นายสุริยา ห่วงถวิล ประธานวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ข้าวโพดเขารวกพัฒนาก้าวไกล มีประสบการณ์ด้านเกษตรกรรม ตั้งแต่ปี 2554 – ปัจจุบัน รวมถึงบริหารงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตั้งแต่ปี 2560 – ปัจจุบัน ประเภทบริการที่ต้องการให้มีจำนวนเครื่องจักรที่พร้อมจะให้บริการ 19 เครื่อง เช่น รถไถ 57 แรง รถไถ 32 แรง รถแม็คโคร ขนาด 3 ตัน เครื่องหยอด ร่องคู่ เครื่องหยอด 2 ร่อง เครื่องหยอด 3 ร่อง เครื่องพ่นยา เครื่องปั่นไฟ งานเตรียมดิน โดยมีอุปกรณ์ที่พร้อมให้บริการทั้ง ผาล 3 ผาล 6 โรตารี่ ดันดิน เป็นต้น งานปลูกข้าวโพดและบำรุงรักษางานเก็บเกี่ยวผลผลิต งานขุด ทั้งการขุดบ่อ ขุดคลองไส้ไก่ หรือการวางระบบท่อให้เช่าอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น เครื่องหยอด เครื่องปั่นไฟ ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ เป็นต้น