ราคาน้ำมันดิบลดลง ผู้ค้าจับตาทรัมป์ขึ้นภาษีกับทั่วโลก

ราคาน้ำมันดิบลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากผู้ค้ากำลังจับตาผลกระทบจากภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่จะประกาศในวันพุธ
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดน้ำมันโลกวันอังคาร(1 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ค้าเตรียมรับมือกับภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กำหนดจะประกาศในวันพุธ ซึ่งอาจส่งผลให้สงครามการค้าโลกทวีความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม การคุกคามของทรัมป์ที่จะเรียกเก็บภาษีน้ำมันดิบของรัสเซีย และโจมตีอิหร่านทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน ซึ่งจำกัดการลดลงของราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลดลง 39 เซ็นต์ หรือ 0.5% อยู่ที่ 74.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ ระดับสูงสุดในรอบการซื้อขายราคาไต่ขึ้นสูงเกินกว่า 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐ (WTI)ลดลง 38 เซ็นต์ หรือ 0.5% อยู่ที่ 71.10 ดอลลาร์ เมื่อวันจันทร์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์
ทำเนียบขาวไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับขนาด และขอบเขตของภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ที่ยืนยันว่าทรัมป์จะเรียกเก็บในวันพุธ
บ็อบ ยอเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายล่วงหน้าด้านพลังงานของบริษัท Mizuho กล่าวว่า “ตลาดกำลังผันผวนเล็กน้อยเมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง เราอาจสูญเสียอุปทานบางส่วนจากเม็กซิโก เวเนซุเอลา และแคนาดา แต่มีโอกาสอย่างแน่นอนที่ความต้องการน้ำมันจะลดน้อยลงเกินกว่าปริมาณน้ำมันที่ลดลงนั้น” เขากล่าวเสริม
การสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์ 49 คนของสำนักข่าวรอยเตอร์ ในเดือนมีนาคม คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในปีนี้จากภาษีนำเข้าของสหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในอินเดีย และจีน ขณะที่กลุ่ม โอเปกพลัส (OPEC+ ) เพิ่มการผลิตน้ำมัน การเติบโตที่ช้าลงของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมัน ซึ่งอาจชดเชยการลดลงของอุปทานอันเนื่องมาจากการคุกคามของทรัมป์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์