ไทยย้ำสหรัฐหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ลงทุน 1.7 หมื่นล้านเหรียญ ใน 20 รัฐ

กต. ระบุไทยลงทุนในสหรัฐกว่า 70 แห่งใน 20 รัฐ มูลค่าลงทุน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จ้างงาน 1.1 หมื่นตำแหน่ง ในพลังงาน ปิโตรเคมี อาหาร อสังหาริมทรัพย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์
วันที่ 2 เม.ย. 2568 เวลา 8.30 น. คณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐ จัดการแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมของไทยต่อนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานและตัวแทนจากผู้แทนภาครัฐและเอกชน
ทั้งนี้ การจัดตั้งคณะทำงานฯ เป็นไปตามคำสั่งของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเจรจาและรับมือกับมาตรการทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นจากสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและมีการประกาศนโยบายด้านภาษีที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไท
นางศิริลักษณ์ นิยม รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยกับสหรัฐมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน ในฐานะพันธมิตรทางสนธิสัญญาและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีประเด็นความร่วมมือในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ และยังมีความร่วมมือในการรับมือภัยคุกคามรูปแบบเดิมและใหม่ เช่น ไซเบอร์, อาชญากรรมข้ามชาติ, ยาเสพติด, การหลอกลวงออนไลน์ และภัยพิบัติ รวมถึงการช่วยเหลือจากสหรัฐ ในการส่งทีมผู้เชี่ยวชาญมาสนับสนุนไทยในการค้นหาผู้สูญหายกรณีเหตุอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สหรัฐ ถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ไทยให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล, อุตสาหกรรมแห่งอนาคต อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ AI และพลังงาน
ขณะเดียวกันไทยยังให้การสนับสนุนการลงทุนทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งส่งเสริมภาคเอกชนไทยในการลงทุนในสหรัฐเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีมูลค่าการลงทุนที่สำคัญในสหรัฐ ประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ สร้างงาน 1.1 หมื่นตำแหน่ง ในกว่า 20 มลรัฐ ในอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี อาหารและผลิตภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์ และอื่นๆ
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมนำคณะเอกชนไทยไปร่วมงาน Select USA Investment Summit 2025 ในวันที่ 11-14 พ.ค.2568 ณ รัฐแมรีแลนด์ เป็นงานส่งเสริมด้านการลงทุนที่สำคัญและใช้โอกาสนี้ในการดำเนินกิจกรรมคู่ขนานอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์
“ไทยมีความพร้อมทำงานร่วมกับฝ่ายสหรัฐทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ที่สำคัญร่วมกันทั้งสองฝ่าย”
นางศิริลักษณ์ กล่าวว่า สถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ทำงานอย่างหนักในการเข้าหารือกับภาครัฐและเอกชนของสหรัฐ เพื่อปูทางสู่การเจรจา รวมทั้งได้ส่งแนวทางการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อไทยให้คณะทำงานพิจารณา