จับตาตลาด SAF ชะลอฉุด ‘บางจาก’ หลายชาติเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย

จับตาตลาด SAF ชะลอฉุด ‘บางจาก’ หลายชาติเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย

ตลาดน้ำมัน SAF ทิศทางถูกลง หลังการบังคับใช้กฎหมายหลายประเทศเริ่มดีเลย์ สายการบินยังไม่พร้อม จับตาผลกระทบโครงการหมื่นล้าน บางจากช้ากว่าแผนเดิมไตรมาส 4 ปีที่แล้ว

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บีบีจีไอ และธนโชค ออยล์ ไลท์ ร่วมทุนตั้งบริษัท BSGF ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) จากน้ำมันใช้แล้วจากการทำอาหารรายแรก และรายเดียวในไทย ทุ่มงบสร้างโรงกลั่นประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท กำลังการผลิตเริ่มต้น 1 ล้านลิตรต่อวัน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุในงานลงนามสัญญาก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนจากน้ำมันพืชใช้แล้ว SAF เมื่อเดือนมิ.ย.2567 มีปัจจัยที่จะทำให้ SAF เป็นที่ต้องการมากขึ้น อาทิ

1.สหรัฐ กำหนดกฎหมาย Inflation Reduction Act of 2022 ที่จะสนับสนุนผู้ผลิตด้วยการกำหนดภาษีในการผลิต 1.75 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

2.ยุโรปใช้มาตรการบังคับให้ผสม SAF ลงไปในน้ำมันอากาศยานทั่วไปในสัดส่วนอย่างน้อย 2% ในปี 2568 จากนั้นเพิ่มทยอยเพิ่มสัดส่วนที่ผสม

3.ญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายให้เครื่องบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ใช้สนามบินญี่ปุ่นจะต้องมีสัดส่วนการใช้ SAF อยู่ที่ 10% ภายในปี 2573

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ระบุถึงเป้าหมายที่จะเริ่มผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 แต่ล่าสุดบางจาก มีกำหนดเปิดปลายเดือนเม.ย.2568

สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้หลายประเทศปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานหมุนเวียน ซึ่งทำให้มีความกังวลราคาน้ำมัน SAF อาจไม่พุ่งสูงเท่าที่เคยคาดการณ์

นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวกับ ”กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การลงทุน SAF ของกลุ่มบางจาก ประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อนมาร์จินดี เพราะราคา SAF สูง และซัพพลายยังไม่มี รวมถึงหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มยุโรปเริ่มบังคับใช้กฎหมาย SAF ในปี 2568

ทั้งนี้ เมื่อการบังคับใช้กฎหมายเริ่มดีเลย์ เพราะติดปัญหาความพร้อมของสายการบิน จึงส่งผลทำให้ Space ปรับลดลง ซึ่งเดิมประเมินว่าราคาจะสูงเทียบได้กับกำไร 30 บาทต่อลิตร ตอนนี้ลงมาอยู่ที่ 12-13 บาทต่อลิตร ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของกลุ่มบางจาก อยู่ที่ประมาณ 7 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม ระยะกลางและระยะยาว เมื่อหลายประเทศเริ่มบังคับใช้ SAF ผสมในน้ำมันเครื่องบินจะทำให้ Space กลับมา แต่อาจไม่กลับไปที่ 30 บาทต่อลิตร เพราะเป็นระดับในขณะที่ยังไม่มีซัพพลาย โดยมีผู้ซื้อมาผสมนิดเดียวได้ และยอมจ่ายแพง ส่วนคนที่เป็นเรกกูเลชันที่ทุกสายการบินจะต้องใช้ ตัวสเปซก็คงจะดีขึ้น

"เมื่อทิศทางถ้าโลกจะไปทางนี้ก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำน้ำมันในเครื่องบินก็จะมีแต่เกรดธรรมดา คนทำก่อนจะแคปเจอร์ตลาดนี้ได้ก่อน กำไรอาจจะยังน้อย ถ้ายุโรปออกกฎบังคับใช้ก็จะกลับมา อาจจะได้คืนทุนเร็วกว่าแผนตามกำลังการผลิต แม้ว่าอาจยังไม่เห็นจนกว่าประเทศเหล่านั้นจะบังคับใช้ ตอนนี้เป็นแค่มาตรการซึ่งทุกคนกลัวว่าจะดีเลย์เพราะความพร้อมของสายการบิน เหมือนไบโอดีเซลบ้านเราที่ราคาแพงกว่าเนื้อน้ำมัน ก็จะมีคำถามว่าทำไมฉันต้องจ่ายแพง"

นายอาศิส ภมรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตอนนี้ Space ของน้ำมันอากาศยานยั่งยืนไม่ดีอยู่ที่ประมาณ 8-9 บาทต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่บางจากฯ คาดไว้ ซึ่งเราใช้ 15-16 บาทต่อลิตร จากเดิมอยู่เกือบ 40 บาทต่อลิตร 

ดังนั้น เมื่อ Space ไม่ดีอาจจะเลื่อนการ COD ออกไป และไม่จำเป็นต้องรับค่าเสื่อมอะไร และเมื่อ Space เริ่มดีขึ้นอาจเดินกำลังการผลิต ในช่วงไตรมาส 3 ไปเลย เพราะสุดท้ายแล้วต้องมี

ขณะนี้หลายประเทศมีกรอบกำหนดเวลาการใช้น้ำมัน SAF อีกทั้ง ไทยยังทำไม่สำเร็จ และบางจากฯ เป็นรายแรก และมีลูกค้าของในมือ 60-70% แล้ว  

"ตอนนี้ตลาดดีมานด์เป็นศูนย์ คือ ไม่มีกำไรไม่มีขาดทุน คือ Square ซึ่งยังไม่มีการประมาณการรายได้อะไร จึงไม่ขาดทุนเพราะเสมอตัว จะรันเครื่องหรือไม่รันก็ไม่มีผลอะไร"

นอกจากนี้ ในการประกาศเงินลงทุนไปหลักเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ก็ไม่มีผลเพราะเป็นแผนลงทุนระยะยาว และเมื่อดีมานด์เกิดขึ้นมาซัพพลายก็พร้อม โดยเมื่อยุโรปประกาศใช้จะต้องมาเติม SAF ที่ไทย

สำหรับราคาน้ำมัน SAF วันนี้ (3 เม.ย.2568) อยู่ที่ วันนี้ ราคา 1838 $ต่อton = 61.5 บาทต่อkg = 48 บาทต่อลิตร

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์