สรรพากร โชว์ผลจัดเก็บรายได้ 6 เดือนแรก สูงกว่าเป้า 1 หมื่นล้าน

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ กรมสรรพากร สะสมในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567-มี.ค. 2568) รวมได้ทั้งสิ้น 966,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 36,213 ล้านบาท คิดเป็น 3.9% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 10,158 ล้านบาท คิดเป็น 1.1%

โดยผลการจัดเก็บรายได้สรรพากรในเดือนมี.ค. 2568 ยังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถเก็บภาษีได้ถึง 170,473 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,603 ล้านบาท คิดเป็น 4% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,088 ล้านบาท คิดเป็น 0.6%

ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมานั้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการบริโภคภายในประเทศ (ภ.พ. 30) ยังคงเป็นภาษีที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งกรมสรรพากรสามารถเก็บได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 7.6%

นอกจากนี้ ปัจจัยบวกอีกประการหนึ่งคือ ข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (Advance Pricing Arrangement: APA) ที่กรมสรรพากรได้ทำร่วมกับกรมสรรพากรต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ประเทศไทยสามารถจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกรรมข้ามพรมแดนได้อย่างเป็นธรรม

ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บรายได้ที่เกินเป้าหมายในเดือนมี.ค. และในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อสถานะทางการคลังของประเทศ และสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการบริโภคภายในประเทศ

ผู้ยื่นแบบฯ ได้เงินคืนภาษีแล้ว 83%

ในส่วนของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2567 ตั้งแต่ 1 ม.ค.2568 จนถึง ณ วันที่ 3 เม.ย.2568 มีผู้ยื่นแบบแล้วทั้งสิ้น 11.12 ล้านแบบ โดยในจำนวนนี้มีผู้ขอคืนภาษี 4.37 ล้านแบบ คิดเป็น 39% ซึ่งกรมสรรพากรได้ดำเนินการคืนภาษีไปแล้วถึง 83% ของจำนวนผู้ที่ขอคืนภาษี 

สำหรับผู้ที่ยื่นแบบไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินคืนภาษีนั้น กรมสรรพากรอาจอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม เช่น การขอเอกสารประกอบ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการในส่วนนี้อย่างเต็มที่