อาหารสัตว์หนุนนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐ 3 ตัว มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้าน

อาหารสัตว์หนุนนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐ 3 ตัว มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้าน

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ เสนอรัฐนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐเพิ่ม 3 ตัว รวมมูลค่า 9 หมื่นล้านบาท หนุนลดข้อจำกัด ยกเลิกโควต้านำเข้า

วันนี้ (9 เม.ย.) ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ สื่อในเครือเนชั่น กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ และ โพสต์ทูเดย์ ร่วมจัดงานเสวนาโต๊ะกลม “Trump’s Global Quake: Thailand Survival Strategy” โดยมีตัวแทนภาคเอกชน ผู้ผลิตและผู้ส่งออกในประเทศไทย ร่วมพูดคุยในหัวข้อ “The Great Trade War: กลยุทธ์ไทยสู้ศึกสงครามการค้าโลก“

นายสมภพ เอื้อทรงธรรม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ไทยมีปริมาณการผลิตอยู่ที่ 21 ล้านตัน ขยายตัว 1.1% ต่อปีมาตลอด 7 ปี เนื่องจากเผชิญกับข้อจำกัด โดยกว่า 60% ต้องการนำเข้าวัตถุดิบมาเพื่อผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 

สำหรับข้าวโพดสหรัฐมีการดัดแปรพันธุกรรม (GMO) เพิ่มผลิตภาพการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวโพดในสหรัฐต่ำกว่าไทย แม้ค่าแรงจะสูงกว่า ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในประเทศจึงกังวลว่าจะได้รับผลกระทบ   

อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับกฎระเบียบเรื่องการยกเลิกโควต้าให้มีวัตถุดิบมากขึ้น และทำให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ขยายตัวได้ก็จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถอุดหนุนเกษตรกรได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้เพาะปลูกในประเทศเองจะต้องมีการปรับตัวเพิ่มผลิตภาพการปลูกข้าวโพดและลดต้นทุนด้วย

นอกจากนี้ ถั่วเหลือง เมล็ดถั่วและกากถั่ว ซึ่งสหรัฐเป็นผู้ผลิตอันดับต้นของโลก และไทยยังมีการนำเข้าจากสหรัฐน้อย เนื่องจากการพิจารณาเรื่องความสามารถแข่งขัน อีกทั้งยังมีการกำหนดภาษีนำเข้าจากสหรัฐ 2% ซึ่งหากไทยจะนำเข้าเพิ่มขึ้นควรต้องมีการปรับลดภาษี

ทั้งนี้ เรื่องเนื้อหมูและเครื่องใน ที่มีการพิจารณาว่าะนำเข้ามา แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าการเปิดนำเข้าอาจทำลายปศุสัตว์ในประเทศได้ 

ดังนั้นการเปิดทางเพื่อนำเข้าวัตถุดิบ และประกันราคาสินค้าเกษตรในประเทศ เพื่อผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น จะดีกว่าการนำเข้าสินค้าปลายทาง 

“สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีศักยภาพในการเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐ 3 ตัว มูลค่ารวมราว 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้นำเสนอตัวเลขดังกล่าวให้รัฐบาลทราบแล้ว และหากอุตสาหกรรมขยายตัวได้ปีละ 3-5% ก็ยังสามารถขยายตัวได้มากขึ้น”