พิชัย ชี้กู้เงินเพิ่มขอดูโครงการ ต้องแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ

พิชัย ชี้กู้เงินเพิ่มขอดูโครงการ ต้องแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ

“พิชัย” ชี้จีดีพีปีนี้กระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐแน่ ขอดูรายละเอียดโครงการก่อนกู้เงิน ชี้โครงการต้องทำให้เศรษฐกิจไทยโตได้ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าในขณะนี้ยังไม่อยากให้เรียกว่าโครงการกู้เงิน แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องมีการเตรียมความพร้อมเพราะขณะนี้ทุกประเทศในโลกนั้นมีการมองไปข้างหน้าแล้วเห็นถึงผลกระทบของการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐ ซึ่งทำให้มีความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจที่มาจากผลกระทบของการส่งออก การค้าหยุดชะงักไป และการชะลอของการลงทุน ซึ่งเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง และจะมีผลต่อการลดลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แน่นอน

“คำว่าจีดีพีไม่ดีก็คือ ไม่มีความกินดีอยู่ดี ไม่กินดีอยู่ดีก็หมายความว่าไม่มีเงิน ไม่มีการจ้างงานเพราะไม่มีการผลิต และบริการ ซึ่งมาจากการไม่มีการส่งออก และการบริโภคในประเทศ”

 

ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลดูอยู่ก็คือ จะทำอย่างไรในการที่ทำให้ประเทศไทย สามารถจะมีการจ้างงาน และมีการดูแลแรงงาน ดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งแนวทางที่รัฐบาลดูอยู่นั้นก็คือเรื่องของการกระตุ้นโดยการลงทุน และจะไม่ใช่โครงการหรือเม็ดเงินที่มีขนาดเล็ก แต่ต้องเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน และประสิทธิภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้นั้นมีแผนอยู่แล้วบางส่วน   

สำหรับการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมนั้นมีคำถามว่ารัฐบาลจะกู้เงินจากแหล่งเงินไหน ก็คงต้องดูในเรื่องของรายละเอียดของโครงการก่อน และต้องดูในเรื่องของประสิทธิภาพที่จะสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไปด้วย ซึ่งหากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ก็อาจจะเป็นการพูดที่เกินสถานการณ์เกินไป

สำหรับเงื่อนไขในเรื่องของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายนายพิชัย กล่าวว่าในเรื่องนี้ตนเองคงไม่พูดเพราะว่าหากดูแล้วเงื่อนไขของสหรัฐที่กล่าวโดยนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ นั้นระบุว่าเป็นกติกาที่ต้องไม่แทรกแซงค่าเงิน หากพูดในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยก็จะมีผลต่อค่าเงิน ตนเองจึงไม่ควรพูด

เพราะเรื่องนี้คงต้องเป็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เห็นข้อมูลทุกอย่างทั้งเรื่องของปริมาณเงิน สภาพคล่อง เห็นข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท.คงต้องไปคิดเองว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์