เช็คสถานะ 'แลนด์บริดจ์' 1 ลลบ. 'คมนาคม' เข็นขั้นตอนประมูลปีนี้

โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) นับเป็นอีกหนึ่งโครงการลงทุนระดับเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลเพื่อไทยพยายามผลักดัน เป้าหมายเข็นเม็ดเงินการลงทุนลงระบบเศรษฐกิจมากถึง 1 ล้านล้านบาท และเพื่อใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สร้างขีดความสามารถด้านการขนส่งให้กับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ที่จะครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

โดยการพัฒนาแลนด์บริดจ์นับเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดพัฒนา SEC ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอไว้ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2565 โดยให้เร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเบื้องต้น ประกอบด้วย โครงการท่าเรือระนอง โครงการระบบรถไฟทางคู่ และโครงการพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อพลิกโฉมการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้

ขณะที่ต่อมา ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษาความเหมาะสมและดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ โดยปัจจุบัน สนข. ศึกษารายละเอียดโครงการ และรูปแบบการลงทุนแล้วเสร็จ พบว่าโครงสร้างพื้นฐานที่จะเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารเชื่อมต่อจากแลนด์บริดจ์ไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ควรประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ท่าเรือน้ำลึก มอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่

ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น สนข.ยืนยันว่าจะประกวดราคาเป็นสัญญาเดียว เอกชนจะได้รับสิทธิดำเนินโครงการทั้งท่าเรือน้ำลึก มอเตอร์เวย์ และรถไฟ โดยเอกชนสามารถร่วมกลุ่มพันธมิตรกิจการร่วมค้าเข้าร่วมประมูล เบื้องต้นคาดว่าการลงทุนระยะที่ 1 จะมีมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท

ขณะที่ผลการศึกษาของโครงการมีมูลค่าการลงทุนรวม 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น

โครงการท่าเรือฝั่งชุมพร 3 แสนล้านบาท

โครงการท่าเรือฝั่งระนอง 3.3 แสนล้านบาท 

โครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) 1.4 แสนล้านบาท

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่จะประกวดราคาครั้งเดียวเพราะต้องการให้เกิดการบูรณาการ เนื่องจากต้องการให้ทุกโครงการโครวงสร้างพื้นฐานสามารถเชื่อมโยงกันได้ ผู้ประกอบการรายเดียวเข้ามาบริหาร ก็จะสามารถจัดการท่าเรือ เชื่อมต่อสินค้าไปที่รถไฟ หรือมอเตอร์เวย์ได้ทันที เป็นการบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพ คล่องตัว ซึ่งโครงการนี้จะเปิดให้นักลงทุนต่างชาติร่วมทุนไทย และเข้ามาลงทุนได้ โดยไม่จำกัดสัดส่วนการร่วมลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

“มนพร เจริญศรี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแลนด์บริดจ์ โดยระบุว่า โครงการแลนด์บริดจ์จะขับเคลื่อนได้จำเป็นต้องมีกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลอยู่ผลักดันร่างพระราชบัญญัติระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ พ.ศ….. (พรบ. SEC) สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นประชาชน คาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและร่าง พรบ.SEC ให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอไปยัง ครม.พิจารณาภายในเดือน พ.ค.นี้

หลังจากนั้นจะบรรจุวาระเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังจะเริ่มเปิดประชุมสามัญในวันที่ 3 ก.ค.นี้ และคาดว่ากระบวนการพิจารณาเหล่านี้จะแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ผลักดันให้สามารถเริ่มกระบวนการประกวดราคา โดยร่างเอกสารเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน (RFP) ในเดือน ธ.ค.2568

“เนื่องด้วย พรบ.SEC เป็นเรื่องของกฎหมายใหม่ จึงคาดว่าจะไม่ได้มีการแตกประเด็นที่กว้างมาก และอาจไม่ได้ใช้เวลาในกระบวนการพิจารณามากนัก อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ จึงคาดว่า พรบ.SEC จะได้รับการพิจารณาเห็นชอบ และทำให้โครงการเดินหน้าประกวดราคา เพื่อเริ่มก่อสร้างได้ตามเป้าหมายกำหนด”

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังกำหนดกรอบการดำเนินงานของโครงการแลนด์บริดจ์ โดยประเมินว่าการร่างเอกสารเชิญชวนผู้ลงทุนในการร่วมลงทุนโครงการ จะเสร็จไตรมาส 1 ปี 2569 และคัดเลือกผู้ลงทุนเสร็จไตรมาส 2 ปี 2569 จากนั้นจะออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน และเสนอ ครม.อนุมัติโครงการในไตรมาส 2 ปี 2569 พร้อมลงนามสัญญากับเอกชนร่วมลงทุน โดยคาดการณ์ว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะเริ่มก่อสร้างระยะที่ 1 ในไตรมาส 3 ปี 2569 เสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2573