แล้วสภาฯ ก็วนมาเรื่องเพศ
ไม่ต้องตกใจครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐสภาไทย แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่รัฐสภาอังกฤษ ไม่น่าเชื่อนะครับ อยู่ดีๆหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ “Daily Mail” ก็ตีพิมพ์บทความที่ทำให้อุณหภูมิร้อนแรง ทั้งๆที่ไม่ใช่ฤดูที่ร้อนผ่าว ราวกับเดือนเมษายนบ้านเรา
ผู้ตกเป็นข่าวคือ ผู้แทนราษฏรหญิง วัย 41 ปี นามว่า Angela Rayner เธอเป็นรองหัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน และมีความเห็นทางการเมือง ที่แตกต่างจากนายกรัฐมนตรี Boris Johnson แห่งพรรคอนุรักษ์นิยม ตลอดมา
บทความระบุว่าเธอนั่งอยู่แถวหน้า ตรงข้ามกับนายกรัฐมนตรีบอริส ที่กำลังยืนอภิปราย ระยะห่างกันไม่มากนัก แต่เธอนั่งไขว่ห้าง ไขว้ขา แล้วก็แยกขา แล้วก็ไขว้ขวา แบบนี้หลายครั้ง
บทความเขียนว่า เธอตั้งใจจะทำให้นายกรัฐมนตรีบอริส ซึ่งกำลังอภิปรายอยู่ “เสียสมาธิ” และท่านั่งไขว่ห้างของเธอนั้น ยังถูกนำไปโยงใยกับ ท่านั่งเซ็กซี่ ของ Sharon Stone ในภาพยนตร์เรื่อง “Basic Instinct” อีกด้วย .... ไปไกลขนาดนั้นเชียวครับ
ทันทีที่บทความนี้ตีพิมพ์ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ อุณหภูมิการเมืองก็พุ่งกระฉูดที่รัฐสภาทันที และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
ข้อกล่าวหานี้ ต้องถือว่าร้ายแรงมากนะครับ แรงจนทำให้ใครๆต้องหวนกลับไปดูภาพของ Angela Rayner เพราะภาพถ่ายนี้มีปรากฎอยู่ทั่วไป เท่าที่ผมดูภาพนิ่ง ก็เห็นว่าเธอนั่งไขว่ห้าง มองเห็นส่วนบนเหนือเข่าขึ้นไประดับหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรน่าเกลียดนะครับ
แน่นอนว่า แองเจล่า เธออยู่เฉยๆไม่ได้แน่นอน สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะที่เป็นหญิง ก็อยู่เฉยไม่ได้ นายกรัฐมนตรี ก็อยู่เฉยไม่ได้
ทุกคนออกมากระหน่ำหนังสือพิมพ์ ที่ตีพิมพ์บทความชิ้นนั้น และบอกว่านี่เป็นการคุกคามทางเพศต่อสตรี และเกิดขึ้นบ่อยครั้งในรัฐสภา ผมเห็น ส.ส. หญิงบางคน พูดไปแล้วก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
แล้วใครล่ะเป็นคนเขียนข่าว ใครเป็นคนให้ข่าว และจะต้องรับผิดชอบอย่างไร
เท่าที่เผยแพร่ออกมาระบุว่า แหล่งข่าวคือสมาชิกสภาฯจากพรรครัฐบาลคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบนาม เขาบอกว่าเป็นการกระทำโดยตั้งใจของคุณแองเจล่า เพราะเธอเป็นคู่แค้นทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี
แถมยังบอกด้วยว่า ในการอภิปรายปะทะคารมกันนั้น เธอเอาชนะการโต้คารมกับบอริสไม่ได้ เพราะบอริสได้รับการฝึกฝนการโต้วาที มาจากอ๊อกซ์ฟอร์ด “ส่วนเธอ ก็มีดีอย่างอื่น ที่พอจะสู้ได้”
ก็ต้องสอบสวนกันต่อไปว่า ผู้ให้ข่าวเชิงกล่าวหานี้คือใคร และขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว แต่ที่แน่ๆคือ Daily Mail ถูกกระหน่ำจากทุกด้าน
คนเขียนบทความซึ่งเป็นนักข่าวการเมือง และได้รับสิทธิพิเศษ ให้เข้าไปในห้องล็อบบี้ของรัฐสภาฯได้ มีแนวโน้มว่าจะถูกยึดบัตรอนุญาตใบนั้น
สองวันก่อน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอเชิญ Daily Mail เข้าพบ แต่บรรณาธิการปฎิเสธด้วยการพาดหัวข่าวหน้า 1 อย่างท้าทายว่า
“ไม่มีทาง…ท่านประธานสภา: บนหลักการของเสรีภาพสื่อ เราขอปฎิเสธคำเชิญของท่าน ด้วยความเคารพ”
ถ้าจะถือว่าสื่อฉบับนี้ “ยะโส โอหัง” มาก ก็น่าจะพอได้นะครับ แต่เราต้องติดตามกันต่อไป ว่าในที่สุดแล้ว ผลจะออกมาเป็นเช่นใด
โดยส่วนตัว ผมเห็นว่าจริยธรรมของ คนทุกวิชาชีพ เป็นเรื่องสำคัญมากๆ และสื่อมวลชนไม่ว่าประเทศใด ก็ต้องตระหนักว่าสิ่งที่จะเขียนหรือตีพิมพ์ออกมานั้น เป็นความจริงหรือไม่ ไม่ใช่หวังเพียงจะเพิ่มยอดขายเท่านั้น
ในขณะที่เรื่องซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่อง กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาในสัปดาห์นี้ เมื่อคืนวันอังคาร ก็มีข่าวออกมาอีกว่า สมาชิกรัฐสภาของอังกฤษคนหนึ่ง นั่งดูภาพโป๊ทางโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ประชุมในรัฐสภา
ผู้ให้ข่าวเป็น ส.ส. หญิงหลายคน และหนึ่งในนั้นเป็นถึงรัฐมนตรี เธอบอกว่าเธอนั่งประชุมอยู่ข้างๆ และเห็นพฤติกรรมของ ส.ส. รายนี้ ซึ่งเพิ่งถูกเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่าชื่อ Neil Parish
ส.ส. หญิงอีกคนหนึ่งจากพรรครัฐบาล ก็ระบุว่าเธอเห็นพฤติกรรมของ ส.ส. คนนี้ และพยายามถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ทำไม่สำเร็จ
ขณะนี้ ส.ส. หญิงหลายคน ออกมาเรียกร้องว่า ถ้าพิสูจน์ได้ว่าพฤติกรรมของ Neil Parish เป็นเรื่องจริง เขาควรจะต้องได้รับโทษให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอริส ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เห็นด้วย”
ภรรยาของ Neil เพิ่งออกมากล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรังเกียจพฤติกรรมนี้เช่นกัน แต่ Neil สามีของเธอ ยังยืนยันที่จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง
วันนี้ ผมเอาเรื่องหนักๆ ในรัฐสภาอังกฤษมาเล่าสู่กันฟังครับ ไม่น่าเชื่อนะว่า ประเทศที่เราคนไทย มักเรียกกันว่า “เมืองผู้ดี” จะมี ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ ก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้ได้
ผมว่าจะไม่พูดถึงรัฐสภาไทย แต่ก็ขอทิ้งท้ายไว้สักหน่อย ว่าอย่าประมาทในเรื่องทำนองนี้ นะครับ เพราะว่าเราก็มีกรณีเกิดขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน เช่นกรณี ส.ว. ท่านหนึ่งต้องหลุดจากตำแหน่ง เพราะซื้อบริการทางเพศจากเยาวชนสตรี
เวลาทุกชั่วโมงของสมาชิกรัฐสภา มีมูลค่ามหาศาล และประชาชนเป็นผู้รับภาระนั้น ดังนั้น อย่าให้เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับปากท้องและความเจริญของประเทศ มาทำให้เสียเวลามากมายในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบบนี้ หรือเรื่องอื่นใด เช่นเรื่องที่มาจากการหาแสงหรือหิวแสง ของสมาชิกบางคน เป็นต้น
โปรดใช้ทุกนาที ทั้งในสภาฯและนอกสภาฯ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ เถอะครับ