นางพญาเสื้อแดง "อุ๊งอิ๊ง" เทกโอเวอร์ นปช. ปิดฉาก "ตู่-เต้น"

ภารกิจใหม่ของ "อุ๊งอิ๊ง" คือรับบทหัวหน้าเสื้อแดงคนใหม่ ไม่มีแล้ว นปช. หมดยุค 2 เกลอ "ตู่-เต้น" บัดนี้แดงทั้งแผ่นดิน ได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับเพื่อไทย

ฤดูกาลเลือกตั้ง 2554 ทักษิณ ชินวัตร เดินยุทธศาสตร์ 2 ขาคือ พรรคเพื่อไทย และ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ในปฏิบัติการ 40 กว่าวัน ปั้นยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

พ.ศ.โน้น นปช. ภายใต้การนำของ จตุพร พรหมพันธ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เคลื่อนพลเปิดเวทีปราศรัยไปทั่วประเทศ ผนึกสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดง 100 กว่าแห่ง พร้อมขบวนการหมู่บ้านเสื้อแดงของ อานนท์ แสนน่าน เปิดยุทธการแอร์วอร์ จนประสบผลสำเร็จ

พ.ศ.นี้ ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน นปช. แตกเป็น 2 ก๊ก ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ หมู่บ้านเสื้อแดงล่มสลาย และแดงอิสระ หันไปสวมเสื้อสีส้ม 

การเลือกตั้ง 24 มี.ค.2565 พรรคเพื่อไทย จึงต้องแข่งขันกับพรรคเสื้อแดงอย่างน้อย 2 พรรคคือ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย อดีตแกนนำ นปช.บางคน และแกนนำแดงภูธรแปรพักตร์ไปอยู่ฝั่ง 3 ป.

 

วันที่ นปช. มิอาจเป็นศูนย์รวมคนเสื้อแดงได้เหมือนอดีต ในงานครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ บ้านหลังใหญ่ หัวใจดวงเดิม ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง จ.สมุทรปราการ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จึงส่งสัญญาณว่า

"พี่น้องเสื้อแดง กลับบ้านเรากันค่ะ กลับมาครอบครัวของเรา ครอบครัวเพื่อไทย ร่วมกับพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนประเทศ ประเทศชาติจะกลับมาเจริญอีกครั้ง"

ก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ทักษิณ จึงเดินยุทธศาสตร์ 2 ขาจำแลงคือ ครอบครัวเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย โดยอุ๊งอิ๊ง ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทำหน้าที่ประหนึ่งแกนนำ นปช.ในอดีต

"ครอบครัวเพื่อไทยเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยออกแบบมา บันไดขั้นแรกคือแลนสไลด์ ซึ่งพรรคจะชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายไม่ได้ ถ้าพี่น้องเสื้อแดงไม่ร่วม และพี่น้องไม่อยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทย"

ทักษิณมีบทเรียนจากกรณีกฎหมายล้างผิดปี 2556 เมื่อ จตุพร พรหมพันธุ์ เกิดเฮี้ยวนำ นปช.คัดค้านเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย และแยกตัวออกไปตั้งสถานีทีวีใหม่ชื่อ ยูดีดีแชนแนล ดังนั้น การศึกครั้งใหม่นี้ ทักษิณจึงให้ลูกสาวคนเล็กเข้าเทกโอเวอร์คนเสื้อแดง ผ่านนวัตกรรมที่เรียกว่า ครอบครัวเพื่อไทย 

'ทำไมต้องปากน้ำ'

สาเหตุที่ "อุ๊งอิ๊ง" ต้องเคลื่อนทัพมาที่สมุทรปราการ เป็นจังหวัดแรกในภาคกลาง เพราะที่นี่เคยเป็นที่มั่นใหญ่อีกแห่งหนึ่งของคนเสื้อแดง และในปี 2562 พรรคเพื่อไทยปากน้ำพ่ายยกจังหวัด จาก ส.ส.สมุทรปราการ 7 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐได้ 6 ที่นั่ง และพรรคอนาคตใหม่ 1 ที่นั่ง

ความพ่ายแพ้ของเพื่อไทยในครั้งนั้น มาจากพรรคอนาคตใหม่ตัดแต้มในทุกเขต ทำให้ตาอยู่อย่างตระกูลอัศวเหม และพลังประชารัฐเข้าป้าย

อีกด้านหนึ่ง ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ แกนนำเพื่อไทยปากน้ำ เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สำโรง และเป็นลูกชายของ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ 

การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ สวมเสื้อเพื่อไทย ลงสมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 แต่สอบตก ผลปรากฏว่า ยงยุทธ สุวรรณบุตร มือขวาชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ได้ 35,707 คะแนน ,ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ ได้ 31,655 คะแนน และนิตยา มีศรี ผู้สมัครโนเนม พรรคอนาคตใหม่ ได้ 30,366 คะแนน

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตนายทุนเสื้อแดง สมัยหน้าคงโบกมือลาพรรคเพื่อชาติ หันมาลุ้นลูกชายทำศึกล้างตาที่เขต 2 สนามปากน้ำ

'แดงนอกคอก'

จะว่าไปแล้ว องค์กร นปช. ก่อเกิดขึ้นมาจากกลุ่มคนรักทักษิณ ซึ่งยุคแรกของการชุมนุมต้าน คมช.ปี 2550 ไม่มีนักการเมืองในเครือข่ายทักษิณเข้าร่วม กระทั่ง ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจไม่ยอมแพ้ จึงมอบให้ จักรภพ เพ็ญแข ร่วมกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และจตุพร พรหมพันธุ์ ตั้งกลุ่ม นปก. ก่อนจะพัฒนามาเป็น นปช.

มวลชนคนเสื้อแดงนับหมื่นนับแสน ที่หลั่งไหลเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ช่วงปี 2552-2553 กว่าร้อยละ90 บริหารจัดการโดยนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย เหลืออีกร้อยละ 10 เป็นเรื่องของแกนนำแดงภูธร

ดังนั้น แกนนำ นปช.อย่างจตุพร พรหมพันธุ์ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จึงมีความขัดแย้งกับ ส.ส.เพื่อไทยอยู่บ่อยครั้ง ในประเด็นความเป็นเจ้าของคนเสื้อแดง และมักสร้างวาทกรรมคนเสื้อแดงคือนักสู้ประชาธิปไตย ไม่ใช่ฐานเสียงของทักษิณ

นับแต่ปลายปี 2562 นปช. ก็แตกเป็น 2 ขั้ว โดยขั้วจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมด้วยอารี ไกรนรา, ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก, วิโชติ วัณโณ และ ศักดิ์รพี พรหมชาติ แยกตัวมาตั้งสถานีโทรทัศน์พีซทีวีแห่งใหม่ที่ ซอยรามอินทรา 40 (ซอยวัดนวลจันทร์) ปัจจุบัน พีซทีวีได้ยุติการออกอากาศไปแล้ว

ขั้วณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วย วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ธิดา ถาวรเศรษฐ, เหวง โตจิราการ และก่อแก้ว พิกุลทอง เปิดสำนักข่าวยูดีดีนิวส์ อยู่ที่อาคารเอเวอรี่ มอลล์(นิวเวิลด์เดิม) ถ.รัตนาธิเบศร์ สี่แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

จุดแตกหักของ นปช. ก็น่าจะมาจากก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รับบัญชาจากนายใหญ่ให้ไปช่วยพรรคไทยรักษาชาติ แต่ตู่ จตุพร หันไปจับมือสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ และยงยุทธ ติยะไพรัช ตั้งพรรคเพื่อชาติ

ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน แยกเป็นกลุ่มสงคราม-ยงยุทธ 4 คน ส่วนกลุ่มจตุพร มีอารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ด นปช.คนเดียว ซึ่งภายหลัง จตุพรแตกคอกับยงยุทธ จึงทำให้พรรคเพื่อชาติกลายเป็นพรรคของตระกูลติยะไพรัช

ระยะหลัง อารี ไกรนรา ก็เดินคนละเส้นทางกับจตุพร โดยเสี่ยตู่ไปตั้งกลุ่มไทยไม่ทน ลุกขึ้นมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ แต่จุดม็อบไม่ติด 

กลางปีที่แล้ว สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และส่งต่อให้ บุศริณธญ์ วรพัฒนานันท์ พี่สาวของยงยุทธ และต้นปีนี้ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ก็ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ 

นับวันจตุพรจะห่างคนแดนไกลออกไปเรื่อยๆ และหัวโขนประธาน นปช.ก็ไม่ขลังเหมือนเก่า เมื่อคนเสื้อแดงส่วนใหญ่หันหลังให้กับเดอะตู่ สังเกตได้จากการเคลื่อนม็อบไทยไม่ทน มีคนเสื้อแดงไปร่วมน้อยมาก

'แดงฝันค้าง'

ปี 2564 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ มีเสียงตอบรับจากคนเสื้อแดงระดับหนึ่ง ซึ่งเบื้องหลังคาร์ม็อบ เต้น ณัฐวุฒิ ได้เตรียมการจัดตั้งพรรคเส้นทางใหม่ โดยมอบให้คนใกล้ชิดไปจดแจ้งชื่อพรรคการเมืองต่อ กกต.

เบื้องต้น เสี่ยเต้นจับมือ จาตุรนต์ ฉายแสง จะปั้นพรรคเส้นทางใหม่ ให้เป็นพรรคทางเลือก ไม่ใช่สาขาพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคเสื้อแดง แต่จะวาง Positioning แบบเดียวกับพรรคก้าวไกล พูดง่ายๆ หวังชิงแต้มจากนิวโหวตเตอร์

เสี่ยเต้นลงทุนลงแรง สร้างอาคารสำนักงานพรรคเส้นทางใหม่ อยู่ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่มิทันได้ลงสนาม จาตุรนต์ ฉายแสง ก็ตัดสินใจกลับพรรคเพื่อไทย หลังที่ประชุมร่วม ส.ส.และ ส.ว. มีมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการเลือกตั้ง โดยใช้บัตร 2 ใบ 400 เขต ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กไปไม่รอด

ตอนแรกที่คิดก่อการตั้งพรรคเส้นทางใหม่ ก็หวังพึ่งพากติกาเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ระบบจัดสรรปันส่วนผสม ได้ ส.ส.ประมาณ 10  คน แต่เมื่อเจอกติกาแบบปี 2540 จาตุรนต์ก็ขวัญหนีดีฝ่อ ทำเอาเสี่ยเต้นออกอาการเซ็ง

ความล้มเหลวของพรรคเพื่อชาติ ในสนามเลือกตั้งปี 2562 และอาการแท้งกลางคันของพรรคเส้นทางใหม่ พิสูจน์ให้เห็นว่า นปช.ไม่ได้มีมวลชนแดงทั้งแผ่นดิน เหมือนคำคุยโตโอ้อวดของตู่-เต้น 

พ.ศ.นี้ บ้านหลังเดิมที่ชื่อ นปช. ถูกเถ้าแก่ดูไบตัดหางปล่อยวัด แถมคนในบ้านก็แตกคอกัน หอบข้าวหอบของออกไปสร้างบ้านหลังใหม่ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวเถ้าแก่จึงประกาศเชิญชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านเพื่อไทย "..ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน วันนี้กลับบ้านของเรา กลับมาทำให้บ้านหลังนี้แข็งแรงเหมือนเดิม"