หลักเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนที่ปรับปรุงใหม่ | สกล หาญสุทธิวารินทร์
ช่วงที่ประเทศไทยประสบวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปี2540 ที่เรียกกันว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากรวมทั้งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด มีปัญหา ไม่อาจดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ในปี2540 กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง พิจารณายกร่างแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535เป็นการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขข้อจำกัดที่เคยมี และเพื่อคุ้มครองผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อย
โดยให้บริษัทซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อยได้ เพื่อให้บริษัทมหาชน จำกัดที่มีศักยภาพ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ บทบัญญัติที่มีการแก้ไขปรับปรุงมีเพียง 6 มาตรา และได้ตราออกเป็นกฎหมายคือพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2544
บทบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดพ.ศ. 2535ที่มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมที่สำคัญ คือ เพิ่มมาตรา54/1 เพื่อให้บริษัทแปลงหนี้เป็นทุนได้, เพิ่มมาตรา66/1 เพื่อให้บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนได้
ซึ่งมีสองกรณี คือซื้อหุ้นคืนตามมาตรา66/1(1) เป็นกรณีซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เป็นเสียงข้างน้อย และการซื้อหุ้นคืนตามมาตรา66/1(2) เป็นกรณีซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน เมื่อบริษัทมีกำไรสะสม และมีสภาพคล่องส่วนเกิน
หลักเกณฑ์และวิธีการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน
ตามบทบัญญัติของมาตรา66/1วรรคสี่ กำหนดให้วิธีการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นการตัดหุ้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ซึ่งได้มีการตรากฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท พ.ศ.2544 ออกใช้บังคับ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่30 พฤศจิกายน 2544
การแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการในการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน
เนื่องจากกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนและการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท พ.ศ.2544 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว
ทำให้ข้อกำหนดบางประการตามที่บัญญัติไว้เดิม ไม่สอดคล้องกับวิธีการประกอบธุรกิจของบริษัท สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล กระทรวงพาณิชย์
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พิจารณายกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงดังกล่าว ดำเนินการเสร็จประกาศมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่11 เมษายน 2565
สาระสำคัญ ดังนี้
ยกเลิกความในข้อ 4 ของกฎกระทรวงเดิมและใช้ข้อ4ที่แก้ไขใหม่ ซึ่งเป็นการปรับข้อมูลการซื้อหุ้นคืนตามมาตรา66/1(1)ที่ต้องเปิดเผยต่อประชาชนให้ชัดเจนขึ้น
และเพิ่มบทบัญญัติในกรณีที่บริษัทประสงค์จะแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน ก็ให้เปิดเผยข้อมูลเหตุผลความจำเป็น รวมทั้งรายการที่มีการแก้ไขให้สาธารณชนทราบไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ก่อนการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน
แก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการซื้อหุ้นคืนตามมาตรา66/1(2) โดยปรับปรุงรายการที่ต้องมีตามโครงการซื้อหุ้นคืนในข้อ(จ) ให้ระบุวิธีการจำหน่ายหุ้นด้วยเป็นดังนี้ (จ)วิธีการจำหน่ายหุ้น กำหนดเวลาในการจำหน่ายหุ้นและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน
กำหนดผู้อนุมัติให้ซื้อหุ้นคืน
เพิ่มบทบัญญัติเป็นข้อ6/1 กำหนดให้การซื้อหุ้นคืนแต่ละโครงการต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น เว้นแต่ในกรณีเป็นการซื้อหุ้นคืนไม่ถึงร้อยละสิบของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด และมีข้อบังคับกำหนดไว้ให้คณะกรรมการมีอำนาจอนุมัติได้
ทั้งนี้การแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืนก็ต้องได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติดังกล่าวด้วยแล้วแต่กรณี
ปรับปรุงวิธีการซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์
แก้ไขปรับปรุง( 1) ของข้อ7กรณีหุ้นที่ซื้อคืนมีจำนวนไม่เกินร้อยละสิบ อาจเสนอซื้อโดยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ หรือเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปก็ได้
การเปิดเผยข้อมูล
แก้ไขเพิ่มเติมข้อ9 การเปิดเผยข้อมูลการซื้อหุ้นคืนให้กระทำโดยปิดประกาศ ณ สำนักงานแห่งใหญ่ หรือสำนักงานสาขาถ้ามี หากจะแก้ไขหรือยกเลิกโครงการซื้อหุ้นคืน ให้บริษัทชี้แจงเหตุผลความจำเป็นรวมทั้งรายการที่มีการแก้ไขเปิดเผยต่อสาธารณชนล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ก่อนแก้ไขหรือยกเลิกโดยปิดประกาศที่สำนักงานแห่งใหญ่หรือสำนักงานสาขาถ้ามี
ยกเว้นบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืนที่มีรายละเอียดไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ตามกฎระเบียบ ข้อบังคับอื่นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว ก็ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลตามกฎกระทรวงนี้อีก
การซื้อหุ้นคืนตามโครงการใหม่
แก้ไขข้อ 11 การซื้อหุ้นคืน ตามโครงการใหม่เดิมกำหนดให้ทำได้เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่สิ้นสุดโครงการครั้งหลังสุด แก้ไขเป็นให้กระทำได้เมื่อพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันซื้อหุ้นครบจำนวน หรือสิ้นสิ้นสุดโครงการครั้งหลังสุด
การจำหน่ายและตัดหุ้นหุ้นที่ซื้อคืน
แก้ไขปรับปรุงข้อ 12 และ13
ให้จำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้เมื่อพ้นกำหนดสามเดือน (เดิมกำหนดไว้หกเดือน)นับแต่การซื้อหุ้นคืนในแต่ละคราว วิธีการจำหน่ายหุ้น ถ้าเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เสนอขายโดยจับคู่อัตโนมัติตามระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์
หรือเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น หรือเสนอขายต่อกรรมการบริษัทหรือพนักงานของบริษัทตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือเสนอขายต่อประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
กรณีไม่ใช่หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ให้เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น หรือ เสนอขายต่อกรรมการหรือพนักงานของบริษัทตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดลักทรัพย์ หรือเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์.