'เกียรติศักดิ์ศรี' และ 'ความอยู่รอด ของ 'เนชั่นทีวี'
เนชั่นทีวี คือสถานีข่าว 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทย มีอายุ 19 ปี 5 เดือน
ก่อตั้งขึ้น เพื่อจุดประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ยึดหลักการนำเสนอข่าวให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ของประชาชน
โดยกองบรรณาธิการยึดถือหลัก กรอบจริยธรรม จรรยาบรรณ ความเหมาะสม คุณค่าของข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
“เนชั่นทีวี” หรือ “เนชั่น แชนเนล” ออกอากาศครั้งแรกเมื่อ วันที่ 1 มิ.ย.2543 เวลา 12.00 น. ทาง สถานีโทรทัศน์ UBC ช่อง 8 แต่พิษภัยจากการแทรกแซงของอำนาจรัฐและอำนาจมืดทางการเมือง “เนชั่นทีวี” จะต้องย้ายมาอยู่บนช่อง Platform ของตนเองผ่านสถานีโทรทัศน์ไททีวี ช่อง 1 ผ่านระบบ MMDS ครอบคลุมรัศมีในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2546
การฝากชะตากรรม อาศัยบ้านคนอื่นออกอากาศ เป็นบทสรุปชัดเจนว่า วันหนึ่งการแทรกแซง ทางอ้อม กดดันเจ้าของบ้าน ก็จะเกิดขึ้นอีก จึงตัดสินใจ ออกอากาศผ่าน Platform ทีวีดาวเทียม
ต่อมาจึงเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พ.ย.2552 เพื่อหวังเป็นช่องทางในการระดมทุน เสริมความแข็งแกร่งให้องค์กร ก่อนที่จะเข้าประมูลทีวีดิจิทัล เมื่อ 27 ธ.ค.2556
วันนี้… ก้าวสู่ปีที่ 20 ของสถานีข่าวเนชั่น… สถานีข่าวของประชาชน
ผมในฐานะของ “ประธานกรรมการบริหาร” ขอยืนยันอีกครั้งต่อพี่น้องประชาชน… พนักงาน… และผู้ถือหุ้นว่า แม้จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Digital Disruption) ภายหลังจากที่เพิ่งกู้เงินจำนวน 1.4 พันล้านมาประมูลคลื่นความถี่สำหรับทีวีดิจิทัลเมื่อปี พ.ศ.2556
จนเป็นเหตุส่งผลให้ทีวีดิจิทัล ทุกรายประสบภาวะถดถอยทางธุรกิจ
แต่เราก็ไม่เคยย่อท้อ… โอดครวญต่อการเปลี่ยนแปลง… หรือต่อโชคชะตา ดินฟ้าใดๆ
ผ่านเวลามา 5 ปีกว่า… เราได้ก้มหน้าชำระหนี้สินจำนวนกว่า 1.1 พันล้านบาทจนเหลือเพียงไม่ถึง 100 ล้านบาท โดยยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ รวมถึงพันธสัญญาต่อพี่น้องประชาชนเพื่อรักษาจุดยืนที่จะนำเสนอข่าวสารและความจริงสู่สังคม
เหนื่อยไหม…? ท้อไหม… ที่ต้องต่อสู้กับขั้วอำนาจ?
คำถามที่ถูกถามบ่อย… โดยคำตอบที่ตกผลึกแล้วในวันนี้ คือในเมื่อ “เราทุกคนพร้อมทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว”
เหนื่อยใจ… ทุกข์ใจ… สุขใจ… มันอยู่ที่ความคิดเรา… หากเราตั้งมั่นแล้วในการเสียสละและนำเสนอสิ่งดีดีเพื่อสังคม… เราจะเหนื่อยได้อย่างไร?
อุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน… คือเข็มทิศนำทางสถาบันข่าวของเรา
อำนาจรัฐ… เล่ห์กลสกปรกทางการเมือง ส่งผลต่อองค์กรไหม?
ไม่เลย… นักการเมืองโลกเก่า ยุคไดโนเสาร์แถวอีสานตอนใต้ ชอบนึกว่าการฟ้องร้องเป็นการปิดปากสื่อได้… แต่ในความจริงนั้น หากคุณใช้สิทธิ์อย่างสุจริต เรายินดีเคารพสิทธิ์ของทุกท่านเสมอ… แต่บางครั้ง มันก็มีเส้นบางๆ กั้นกลางระหว่างคำว่าสุจริตหรือกลั่นแกล้งเพื่อให้เดินทางไปทุกจังหวัดทุกอำเภอ เพื่อสู้คดี…
ในด้านธุรกิจ… การใส่ร้ายป้ายสี หาว่าเราได้งบโฆษณาเยอะจากภาครัฐนั้น เป็นเรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง
เรายืนยันในเกียรติและศักดิ์ศรี ว่าเราจะไม่มีทางเลือกเป็น “โจรตบทรัพย์” และ “ขอทาน”…
เรามีรายได้โฆษณาปี พ.ศ. 2562 เฉลี่ยเดือนละ 45 ล้านบาท
เป็นรายได้จาก Agency เฉลี่ยเดือนละ 14 ล้านบาท หรือ 31%
รายได้จากลูกค้า Direct เฉลี่ยเดือนละ 12.5 ล้านบาท หรือ 26%
รายได้จากธุรกิจทัวร์เดือนละ 1 ถึง 2 ล้านบาท หรือ 4%
รายได้จากงาน Event on Ground เฉลี่ยเดือนละ 7 ล้านบาท หรือ 16%
รายได้จากการให้เช่าเวลา เดือนละ 3 ล้านบาท หรือ 7%
รายได้จาก Partnership ของ Homeshopping เดือนละ 5.2 ล้านบาท หรือ 12%
รวมแล้วเท่ากับ 43.7 ล้านบาทโดยเฉลี่ยต่อเดือน หรือ 97%
ส่วนที่เหลือคือ รายได้ที่ได้จากหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เช่น ปตท. หรือกระทรวงต่างๆ เพียง 1.3 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 3%
บนค่าใช้จ่ายทั้งหมด 43 ล้านบาทต่อเดือน
ดังนั้นการที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลบางพรรค ที่เข้าร่วมได้กับทุกฝ่าย ใครก็ได้… กล่าวหาว่าเราบีบบังคับของบ 100 ถึง 200 ล้านบาท นั้นเป็นเรื่องน่าขยะแขยง เมื่อเทียบตัวเลขการใส่ร้ายกับสัดส่วนรายได้ที่เรามี...
ฝากถึงท่านนายก “ลุงตู่”… ฝากถึง “คณะรัฐมนตรีทุกราย”… ฝากถึง “ฝ่ายค้านทุกๆ คน”… ให้รับรู้ทั่วกันในข้อมูลนี้ และเราพร้อมให้ตรวจสอบ
ย้ำอีกครั้งว่า... สถาบันข่าวของเรา ทำหน้าที่ตรวจสอบ ทั้งโครงการรัฐบาลและการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน… โดยเราเน้นเรื่องทุจริตและคอร์รัปชัน และเรื่องขบวนการ ชังเจ้า ชังชาติ…
เราเจาะลึกเรื่องโครงการต่างๆ ที่กระทบต่อสาธารณชนและ ไม่โปร่งใส่ และจะทำหน้าที่นี้ ต่อไปไม่หวาดหวั่น
สัปดาห์หน้า ผมจะพูดถึงนิทานอีสป เรื่องราชสีห์กับ “หนู1 เวอร์ชั่น 4.0” ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ