เนื่องมาจากการบวชใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ - พุทธคยา !!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา .. เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับนิมนต์ไปบรรยายธรรมที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น ๒ อาคารบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ เนื่องในโอกาสที่ ศ. นายแพทย์ นิธิ มหานนท์ ได้จัดโครงการบรรพชา-อุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายพระกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐ ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยความสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
ได้มีการกำหนดหัวข้อบรรยาย ชื่อ “เส้นทางบุญ .. สู่เส้นทางธรรม ณ. อินเดีย-เนปาล” ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ จึงนำมาสู่ความสนใจในการสดับธรรมไปตามลำดับ จนเข้าสู่การอบรมจิตตภาวนาในตอนสุดท้าย อันเป็นภาพที่น่าชื่นชมยิ่งในความพร้อมเพรียงของผู้มุ่งบรรพชา-อุปสมบทถวายเป็นพระกุศลในครั้งนี้
ภายหลังจากบรรยายมีข้อความเข้ามาแสดงความเห็นจากการได้รับชมภาพเสียงที่ถ่ายทอดสดทางยูทูบ ดังพระภิกษุรูปหนึ่งที่มีข้อความมาถึงว่า...
“...การถ่ายทอดสดธรรมที่หลวงพ่อแสดงวันนี้สมบูรณ์มากครับ .. สาระก็สมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่เข้ามาและกำลังจะเข้ามาในพระพุทธศาสนา ทั้งพระสงฆ์ ฆราวาส และผู้ที่จะบรรพชา-อุปสมบท ควรจะได้รับฟังและนำไปประพฤติปฏิบัติ จะเกิดประโยชน์ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา...”
.. และตัวอย่างฆราวาสท่านหนึ่งที่ส่งข้อความแสดงความรู้สึกในเรื่องดังกล่าวว่า...
“...การแสดงธรรมเทศนาในวันนี้ เป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงเจ้าค่ะ .. โดยเฉพาะในช่วงที่หลวงพ่อสั่งสอนในหมวดของศีล วินัย หลวงพ่อองอาจมากที่สุดค่ะ !! .....”
..และยังมีความเห็นอีกหลากหลายไปในแนวทางเดียวกัน จึงขอสรุปแค่นี้ และขอทำความเข้าใจว่า ที่อาตมารับมาบรรยายธรรมในครั้งนี้ ก็ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยกับคุณหมอนิธิ มหานนท์ มามากกว่า ๑๐ ปี จึงเห็นควรสงเคราะห์
สำหรับเรื่องการบรรพชาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา อินเดีย นั้น หากพิจารณาตามรูปแบบที่ปรากฏก็ควรแก่การมุทิตาสาธุการ แต่เมื่อได้พิจารณาลงไปลึก ๆ สำหรับการจัดรูปแบบการบวชที่ออกแนวกิจกรรม..
โดยเริ่มต้นที่พุทธคยา ไปสิ้นสุดที่กุสินารา ณ. สังเวชนียสถานปรินิพพาน ในห้วงเวลา ๑๐ - ๑๕ วัน แล้วให้ออกอาการเป็นห่วงต่อกระบวนการให้การศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัยและความหมายอันทรงคุณค่าของคำว่า “บรรพชา-อุปสมบท” ในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการจัดศาสนกิจเชิงกิจกรรมดังกล่าว ว่าเป็นการสนับสนุนประโยชน์ในการส่งสืบอายุพระพุทธศาสนาจริงหรือไม่...”
ดังมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแตกต่างกันไป จากหลายฝ่ายที่ทรงภูมิความรู้และมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา แม้ในมุมมองของอาตมาก็เช่นเดียวกัน จากกรณีที่มีการดำเนินกันไปตามกระแสความเชื่อในสายธารแห่งศรัทธาแบบชาวเรา จึงควรค่าแก่การนำมาช่วยกันพิจารณาสรุปหาความจริงจากคำถามที่กล่าวมา.. ว่า... ให้ประโยชน์ต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนาจริงหรือไม่ .. และแม้แต่ในประโยชน์ของบุคคล...
การบรรยายธรรมในครั้งนี้ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงเต็มไปด้วยสารธรรมอันควรค่าแก่การนำไปพิจารณาในคณะผู้มุ่งบรรพชาทุกท่าน และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะสงฆ์... ด้วยเขตบุญกุศลในพระพุทธศาสนา มิได้สำเร็จโดยพิธีการ... หรือความคิดนึก แต่เกิดจากการปฏิบัติตามศาสนธรรมหรือคำสั่งสอนอย่างถูกต้องตรงตามพระธรรมวินัย ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยพยัญชนะและอรรถความหมาย... ซึ่งจะต้องเกิดจากการได้รับการสั่งสอนที่ถูกต้อง เพื่อการเรียนรู้ที่เป็นธรรม อันจะนำไปสู่การพัฒนาการทางด้านจิตใจ เพื่อบรรลุถึงความดับทุกข์ด้วยปัญญาชอบได้อย่างแท้จริง...
การบรรยายธรรมในครั้งนี้จึงได้เน้นย้ำเรื่อง ศีล หรือ วินัย ของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ซึ่งนับเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาปฏิบัติธรรมในฐานะบรรพชิต ที่จะต้องดำเนินไปตามพุทธบัญญัติอย่างตรงไปตรงมา ด้วยจิตใจที่ซื่อตรง รู้คุณในพระธรรมวินัย ไม่สร้างทิฏฐิวิบัติ เกิดความคิดเฉโกทึกทักเอาเองว่า... สมัยนี้พระควรรับเงินทองได้ สามารถทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้ .. เพราะเป็นยุคไอที !!
ดังที่เคยมีพ่อมหาจำเริญบางท่าน .. บางรูป ออกมากล่าวแสดงความเห็นอย่างไม่กลัวบาปกรรม ... ในการอวดอ้างภูมิรู้ภูมิธรรมที่ไร้ค่า .. ของความเป็นพุทธบริษัทในพระพุทธศาสนา ...การบรรยายธรรมในครั้งนี้ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงได้ตั้งใจให้ความรู้-ความเข้าใจ เพื่อการปรับทัศนคติให้ตรงธรรม .. จะได้นำไปสู่การบรรพชา-อุปสมบทที่ทรงคุณค่า สมประโยชน์ตามที่ตั้งใจกันไว้.. โดยเฉพาะเพื่อการน้อมถวายเป็นพระกุศล !!
เจริญพร