กองทุน Principal APDI 'กองทุน Top Pick'สำหรับการลงทุนปี 2020
ปีหน้าการลงทุนอะไรที่น่าจะให้ผลตอบแทนดีคือคำถามยอดฮิตในใจนักลงทุนทุกคน สำหรับผม Principal APDI เป็นคำตอบนั้น
หลัก ๆ เพราะเป็นจังหวะตลาดที่เหมาะสมสำหรับหุ้น Asia Pacific ex Japan และสไตล์การลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุนที่ของจริงสุด ๆ ทั้ง Alpha, Unconstrained และ Barbell
กองทุน Principal APDI
Principal APDI มี Universe การลงทุนคือหุ้น และ REITs ในภูมิภาค Asia Pacific ex Japan
หลาย ๆ กองทุนหุ้นเอเชียบ้านเราจะมี Universe เป็น Asia ex Japan แต่กองนี้เพิ่มประเทศ Australia และ New Zealand เข้าไปใน Universe การลงทุนด้วย ซึ่งเป็นประเทศ Develop Market ที่ตลาดผันผวนน้อย และมีอัตราปันผลที่สูง
เป้าหมาย Absolute return 8% ต่อปี คือผู้จัดการกองทุนไม่ได้เน้นบริหารสู้กับดัชนีหุ้นเป็นหลักเหมือนกองทุนอื่นๆ แต่มีเป้าหมายหลักคือการสร้างผลตอบแทนให้ได้ผลตอบแทน 8% ต่อปี
ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริงโดยผลตอบแทนรวมของกองทุนนับตั้งแต่ตั้งกองทุนแม่ในปี 2011 อยู่ที่ 168% ขณะที่ Absolute Return Benchmark อยู่ที่ 92% (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 62)
แปลง่าย ๆ คือถ้าลงทุนกองทุนนี้ 100,00 บาทนับแต่วันตั้งกองทุน เงินลงทุนจะโตเป็นเป็น 268,000 บาท ในเวลา8 ปี เกือบ 3 เด้ง
*** แนะนำลงทุน 3-5 ปีขึ้นไป
มีมุมเท่ห์ของกองทุนนี้จากการได้ไปสัมภาษณ์กับพี่วิน CIO บลจ.พรินซิเพิล คือกองทุนนี้นั้นกองแม่ก็ได้ Morningstar ดาว 5 ดวง เมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นเอเชียในมาเลเซีย ขณะที่ในประเทศไทยก็ได้ 5 ดาวเมื่อเทียบกับกองในไทย เลยขอยกให้ Principal APDI เป็นกองทุนหุ้น 10 ดาวไปเลย
ธีมการลงทุนของหุ้นรายตัวในพอร์ต
จากการสัมภาษณ์พี่วิน พบว่าทีมผู้จัดการลงทุนชอบ Mega Trend ด้านเทคโนโลยีโดยพระเอกคือ Tencent มี WeChat และ QQ มีจำนวน Active user เกือบ 2 พันล้านคน มีการลงทุนใน SAMSUNG ซึ่งวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงมือถือแต่ยังถือครอง Market Share การผลิต Memory เกินกว่า 50% ในตลาดโลก ซึ่งทุกวันนี้ Memory เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยใน IoT และ Cloud computing
กองทุนมีการถือครอง Ascendas REITs เป็น Logistics REITs ที่จดทะเบียนในประเทศสิงค์โปร์เน้น Logistiics Warehouse ซึ่งเติบโตตาม trend ของ eCommerce และ Data Center ที่เติบโตตามเทรนด์ของ Cloud Computing
นอกจากนี้กองทุนยังให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่มประกันภัยได้แก่ AIA และ PingAn ซึ่งมีรายได้จาก Mega Trend การเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย และประกันชีวิตในทวีปเอเชียโดยเฉพาะผู้ทำประกันภัยชาวจีน
เรียกได้ว่าเป็นการเลือกหุ้นสไตล์ Bottom-up แบบมีธีมที่อิงตาม Mega Trend ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียที่น่าสนใจมาก ๆ
ทำไมถึงต้อง Principal APDI จึงน่าลงทุนสำหรับปี 2563
งานนี้พี่วินขอไล่ตาม FMV Model ที่เป็นเครื่องมือหลักของทีม Principal เลยครับ
Fundamental: เศรษฐกิจโลกปี 2020 โต 3.4% US 2.1% EM 4.6% ทางทีม Principal มองว่าเศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้ม Asynchronize คือเศรษฐกิจ EM เริ่มฟื้นแต่เศรษฐกิจ DM โตต่ำกว่า
พี่วินมองว่าตลาดหุ้น US ขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ในปีหน้าเศรษฐกิจเอเชียโตดีขึ้นขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ โตแย่ลงทางทีมจึงมองว่ามีโอกาสที่จะเกิดการ rotation มาที่หุ้นภูมิภาคเอเชีย บวกกับอีกปัจจัยสนับสนุนคือนโยบายการเงินของเอเชียที่มีแนวโน้มผ่อนคลาย
การเติบโตของกำไรของ Asia Pac ex Japan ในปี 2020 อยู่ที่ 12% ซึ่งจัดว่าน่าสนใจ
Momentum: ปัจจุบันผู้จัดการกองทุนทั่วโลกมีสถานะ Underweight หุ้นเอเชีย ถ้าพื้นฐานของเอเชียมีการฟื้นตัวจริงอย่างที่คาด น่าจะเกิดการ upgrade มุมมองการลงทุนของหุ้นในภูมิภาคนี้จะทำให้มีโอกาสที่จะมี fundflow เข้ามาอีกเยอะเนื่องจากสถานะปัจจุบันเป็น underweight อยู่
“ที่ผ่านมาผู้จัดการกองทุนเกาะรถไฟหุ้นอเมริกา และตอนนี้มีโอกาสที่ดีที่จะมีการ rotate เข้ามาลงทุนในหุ้นเอเชียมากขึ้น” คุณวิน พรหมแพท์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.พรินซิเพิล กล่าว
Valuation: MSCI Asia ex Japan มี Forward P/E ปี 2020 อยู่ที่ 12.6 เท่า ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ที่ 17.3 เท่า และไทย 15X
ที่ Principal ยังมี ทีม Asset Allcation ซึ่งมีการวิเคราะห์เชิงลึกโดยการทำ Composite P/E + P/B ย้อนหลัง 15 ปีเพื่อดูว่ามีโอกาสกี่ % ที่ราคาวันนี้มีโอกาสถูกกว่าราคาในวันนี้ นั่นหมายความว่าตัวเลขออกมา % ต่ำคือถูก และ % สูงคือแพงนั่นเอง ซึ่งปัจจุบัน Asia ex Japan = 44% จัดว่าถูกกว่าอเมริกาอยู่ที่ 85% ส่วนไทยเห็นแล้วน่าตกใจเพราะสูงถึง 91% (แปลว่าปู่เซตแพงง)
FundTalk รายงาน