กราดยิงโคราช 30 ศพ ต้องช่วยกันหยุดพฤติกรรมเลียนแบบ

ยกกรณีของเหตุ "กราดยิงโคราช" มีเหยื่อเสียชีวิตรวม 29 ศพ และมีคนบาดเจ็บอีกหลายสิบราย

จากการสำรวจพฤติกรรมของ "คนร้าย" ในเฟซบุ๊คเขา ย่อมเห็นได้ชัดว่า เขาเสพสื่อติดตามข่าวโจรที่เป็นผอ.โรงเรียนจี้ชิงทองยิงสังหาร 3 ศพ ย่อมมีพฤติกรรมเลียนแบบไม่มากก็น้อย (ไม่ขอเอ่ยชื่อคนร้ายทั้ง 2 ราย เพื่อไม่ให้จดจำ ขอให้เป็นคนร้ายที่โลกลืม)

เลียนแบบเพื่อให้สังคมสนใจเรื่องราวของเขา
เลียบแบบเพื่อให้สื่อตีข่าวใหญ่ - ตีแผ่เรื่องของเขา
เลียนแบบเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น นายกฯ, รัฐมนตรี, ผบ.ทบ. และผบ.ตร. ได้สนใจตัวเขา
เลียนแบบเพื่อหวังจะเป็นตำนาน

แม้ว่าการเลียนแบบจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

แม้ว่าคนร้ายก่อเหตุกราดยิง จะอ้างว่า 3 ศพแรกในบ้านของนายทหารผู้บังคับบัญชา จะเป็นการล้างแค้น แต่การกระทำต่อเนื่อง ตั้งแต่ไปจี้ชิงอาวุธสงคราม กระสุนเจาะเกราะและรถถัง กว่า 700 นัด ในค่ายทหาร ขโมยรถฮัมวี่ออกมาตระเวนยิงเด็กและประชาชนบริเวณวัด และคนเดินข้างถนน และเข้าไปกราดยิงในห้าง

ย่อมไม่ใช่แค่อยากโจรผู้ร้ายธรรมดา แต่เป็นการก่อการร้ายและวินาศกรรม เพื่อให้โลกจดจำ แต่ไม่มีฮีโร่สายดาร์กคนไหนที่ยิงเด็ก ฆ่าผู้หญิง สังหารคนแก่ เพียงเพราะอยู่ในแนววิถีกระสุน มีแต่ซาตานชั่วช้าเท่านั้นที่ลงมือกระทำ

ดังนั้น บทเรียนที่ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างการรับรู้เท่านั้น จะป้องกันความสูญเสียได้

1.รัฐบาลหรือกองทัพ ต้องปรับปรุงการมาตรการดูแลอาวุธร้ายแรงให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าทหารรักษาการจะถูกยิงตายและบาดเจ็บ แต่เมื่อถูกชิงไปได้ความสูญเสียเพิ่มเป็นเท่าทวี

2.สื่อ ต้องปรับปรุงการรายงานข่าว การนำเสนอ อย่าสร้างให้คนร้ายฆ่าคนตายทุกกรณี กลายเป็นภาพจำ ผลิตซ้ำในแง่มุมที่สร้างให้เขาเป็นตัวละครที่เป็นฮีโร่ รวมไปถึงการรายงานข่าวขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต้องไม่ทำให้คนร้ายได้รับรู้การทำงานและความเคลื่อนไหวตัวประกัน เพราะจะทำให้ตกอยู่ในอันตราย

3. ประชาชน ต้องตระหนักรู้ร่วมกันว่า เหตุการณ์แบบนี้ จะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องส่วนรวม ในการไม่แชร์ภาพและคลิปของเหยื่อ และแสดงความคิดเห็นในสื่อโซเชียลว่าคนร้ายเป็นแบบอย่าง แม้ว่าอาจมีความคับแค้นเรื่องส่วนตัวภายในจิตใจ ซึ่งใครกระทำแบบนั้นต้องช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเพื่อจับกุมตามกฎหมาย และเป็นการป้องกันเหตุได้อีกทางหนึ่ง

สิ่งเหล่านี้ ทุกคนคงรับรู้อยู่แล้ว เพียงต้องการ "อยากตอกซ้ำ" ให้จดจำบทเรียน และการป้องกัน ขยายแนวคิดเพื่อสร้างเกราะป้องกัน อย่าให้ "ความคิดพฤติกรรมเลียนแบบ" เติบโตเป็นไวรัลร้ายแพร่กระจายในโซเชียล!!