'หุ้นสื่อ' เผือกร้อน ตุลาการศาลรธน. 4+4

แทน นุรักษ์ มาประณีต ,จรัญ ภักดีธนากุล ,ชัช ชลวร,บุญส่ง กุลบุปผา และ อุดมศักดิ์ นิติมนตรี ที่หมดวาระลง

รายชื่อทั้ง4คนประกอบด้วย วิรุฬห์ แสงเทียน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, อุดม สิทธิวิรัชธรรม ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา, จิรนิติหะวานนท์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ นภดล เทพพิทักษ์ อดีตอธิบดีกรมเอเชียใต้ตะวันออกกลางและแอฟริกาอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโรสาธารณรัฐอียิปต์ 

ส่วนอีกหนึ่งคนคือ ชั่งทอง โอภาสศิริวิทย์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเนื่องจากได้คะแนนเสียงน้อยกว่า 125 เสียง ด้วยเหตุผล ไม่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติที่ระบุว่า “ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดไม่น้อยกว่า 5ปี” ตามที่ระบุไว้ในมาตรา200แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน 

ขั้นตอนหลังจากนี้จึงเข้าสู่กระบวนการสรรหาใหม่โดยการเปิดให้องค์กรเสนอชื่อบุคคลมายังวุฒิสภาเพื่อชิงตำแหน่งดังกล่าว

ส่วน 4 คนที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ คงต้องไปลุ้นต่อในประชุมตุลาการศาลเพื่อเลือกตำแหน่งประธาน ก่อนนำชื่อว่าที่ตุลาการศาลทั้ง 4 คนขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป 

ระหว่างนี้ “5ตุลาการชุดเดิม” ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงวันที่มีการโปรดเกล้าฯ4ตุลาการ ดังนั้นการตัดสินคดีสำคัญนั่นคือ “คดียุบพรรคอนาคตใหม่” ในกรณีกู้เงิน191ล้านในวันที่21ก.พ.หรืออีกประมาณ1สัปดาห์นับจากนี้  จึงเป็นเสมือนคดีทิ้งทวนของ5ตุลาการชุดเดิม 

นี่อาจจะเป็นตำตอบของคำถามที่ว่า “เหตุใดศาลรัฐธรรมนูญจึงนัดตัดสินคดีในวันที่21ก.พ.?” 

ปัจจุบันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีจำนวน 9 คน โดยมี 5 คนพ้นจากตำแหน่ง ส่วนอีก 4 คน คือ วรวิทย์ กังศศิเทียม ,ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ,ปัญญา อุดชาชน และ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเนื่องจากยังไม่ครบวาระ9ปี 

000 เท่ากับว่า ทันทีที่มีการโปรดเกล้าฯเราจะได้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ4+4 หรือ 8 คน(ไม่นับรวมกับที่สรรหาเพิ่มอีก1คน) ซึ่งคงต้องจับตาการทำหน้าที่ของตุลาการยุค4+4ที่จะมาทำหน้าที่รับไม้ต่อในการพิจารณาคดีสำคัญโดยเฉพาะคดีหุ้นสื่อของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรวม 64 คนซึ่งศาลได้รับคำร้องไว้ก่อนหน้านี้