มีไม่กี่เหตุผลที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปล่อยผ่าน กิจกรรมยิงเลเซอร์ #ตามหาความจริง
สถานที่สัญลักษณ์การสลายชุมนุม นปช. ปี 2553 ของ “คณะก้าวหน้า”
และหนึ่งในนั้นคือ “กระทรวงกลาโหม” ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ทั้งกองรักษาการณ์หน้ากระทรวง ทหารลาดตระเวน พร้อมสุนัขทหาร 24 ชั่วโมง และกล้องวงจรปิดอีกหลายจุด
ระบบรักษาความปลอดภัยกระทรวงกลาโหมไม่ได้หละหลวม เพราะจากการเช็คกล้องวงจรปิด พบว่าทีม “คณะก้าวหน้า” ขับรถตู้ชะลอตรงสัญญาณไฟจราจร แยกศาลหลักเมือง ก่อนเปิดกระจก คนหนึ่งทำหน้าที่ยิงเลเซอร์ข้อความ อีกคนถ่ายภาพ
โดยจุดแรก ตรงกับห้องทำงาน “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนจะขับรถไปยิงเลเซอร์จุดที่สอง ตรงกับห้องเก็บเอกสาร บริเวณกรมแผนที่เก่า โดยใช้เวลาดำเนินการจุดละ 3 -5 วินาที ก่อนเผยแพร่ลงโซเชียล
ฝ่ายกฎหมายกระทรวงกลาโหมกางตำราตรวจสอบข้อกฎหมาย ไม่พบว่า การดำเนินการดังกล่าวผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินข้อใด และไม่เข้าข่ายกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากข้อความที่ระบุ เช่น ทหารขับไล่เสื้อแดงทั้งหมดออกจาก CTW (เซ็นทรัลเวิร์ลด) ทหารควบคุมพื้นที่ CTW เกิดเพลิงไหม้ตอนทหารคุม CTW และ ทหารไม่ยอมให้ดับเพลิงเข้าไปดับไฟ คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
แต่ความผิดที่เด่นชัดคือ เจตนาก่อความเดือดร้อนรำคาญ โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และกระทำเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับยานพาหนะบนท้องถนน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ทั้ง 2 ข้อหา ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันที โดยเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา โดยไม่จำเป็นต้องมีคนมาแจ้งความ
คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อน ‘ทีมยิงเลเซอร์’ ตั้งใจเปิดเผยตัวตน “โจ๋งครึ่ม” แต่เพราะเหตุใดตำรวจยังไม่เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งๆ ที่หลักฐานในมือมีครบถ้วน ทราบแม้กระทั่งทะเบียนรถตู้ ใครเป็นเจ้าของรถ ใครเป็นคนขับ คนถ่ายภาพ คนยิงเลเซอร์ แต่คดีกลับล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
แม้แต่ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ยังอดรนทนไม่ไหว ทั้งบอกใบ้ด้วยการโพสต์รูปพร้อมข้อความก็แล้ว ยอมรับหมดด้วยความสดชื่นก็แล้ว ว่า “คณะก้าวหน้า” เป็นผู้ทำแคมเปญยิงเลเซอร์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อรำลึกถึงเหตุรุนแรงทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม แต่ตำรวจก็ยังนิ่ง
“บิ๊กตู่” รู้ดีว่า นี่คือ “เกมล่อเหยื่อ” หวังให้ตะครุบ จึงทำได้เพียงแค่ออกมาปราม และปล่อยให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่บุ่มบาม หรือเร่งรัดคดี ให้เข้าทาง “คณะก้าวหน้า” จนกระแสจุดติด เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาประเทศ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ คนว่างงาน สุขภาพประชาชน ที่ประเดประดังเข้ามา
ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมแผนรับมือ !
เมื่อการยิงเลเซอร์ #ตามหาความจริง ไม่ทำให้ “บิ๊กตู่” ติดกับดักที่วางไว้ มาตรการต่อไปของ “คณะก้าวหน้า” คือการยกระดับสู้นอกสภาฯ
ส่วนจะออกมาในทิศทางไหน เป็นเรื่องที่หน่วยงานความมั่นคง ยังประเมินไม่ออก
แต่ที่แน่ ๆ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คอนเฟิร์มไว้ว่า ครบรอบรัฐประหาร 22 พ.ค. “เขาเอาแน่นอน”