บทบาท ‘ดาต้า’ และ ‘เอไอ’ ในการช่วยส่งเสริมธุรกิจหลังโควิด-19

บทบาท ‘ดาต้า’ และ ‘เอไอ’ ในการช่วยส่งเสริมธุรกิจหลังโควิด-19

เอไอเปรียบเหมือนกระแสไฟฟ้าในโลกใหม่

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก เป็นสัญญาณเตือนให้มนุษย์เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งในการใช้ชีวิต การทำงาน และการดำเนินธุรกิจที่จะเปลี่ยนรูปแบบไปโดยสิ้นเชิง โดยบททดสอบที่สำคัญต่อจากนี้คือ การคิดหาวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและแนวทางในการเดินหน้าต่อไป 

สำหรับในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงบทบาทของ “ดาต้า” และ “เอไอ” ที่จะเข้ามาส่งเสริมธุรกิจต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และเมื่อสถานการณ์สิ้นสุดลงซึ่งหวังไว้ในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้เราได้เข้าใจนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ที่สุด

ถึงแม้ว่าสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและชีวิตของทุกคนในหลายๆ ด้าน กลุ่มธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัวลงหรือหยุดดำเนินการชั่วคราว สร้างผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นเหมือนห่วงโซ่ ผู้คนถูกกักบริเวณและรณรงค์ด้วยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing / Physical Distancing) 

ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปโดยหันมาใช้งานผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มีการเสพสื่อและกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่บ้าน อย่างการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่การดูดนตรีสดผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ผู้บริโภคจะใช้เวลาในโลกออนไลน์ยาวนานขึ้น และถูกเชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงรูปแบบการขายและการให้บริการของธุรกิจจึงต้องเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมและความต้องการใหม่ ๆ เช่นกัน

ธุรกิจต่างๆ ควรรีบปรับตัวรับมือพฤติกรรมปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) โดยการปรับรูปแบบการทำงานหรือบริการให้เป็นรูปแบบดิจิทัลโดยเร็ว เช่น ปรับระบบจัดการหน้าร้านให้รองรับการซื้อขายจัดส่งแบบอัตโนมัติ, เพิ่มช่องทางติดต่อและให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โมบายแอพพลิเคชั่น หรือ โซเชียลมีเดีย, การเพิ่มระบบแชทบอทเพื่อช่วยพูดคุยตอบคำถามกับลูกค้า สร้างความสะดวกรวดเร็วให้กับลูกค้าและลดการทำงานของพนักงาน ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ทางด้านไอที ให้มีความพร้อมรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับธุรกิจที่มีความเตรียมพร้อมและสามารถปรับตัวได้ดีแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณ ในการสังเกต เรียนรู้ และเก็บข้อมูลจากลูกค้า จากข้อมูล “insights” ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงนี้ อาจทำให้มองเห็นโอกาสใหม่ หรือสิ่งที่ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ในธุรกิจที่มีความพร้อมและต้องทำงานกับรายการหรือข้อมูลซับซ้อนจำนวนมาก อาจเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญในการสร้างระบบเอไอเพื่อเป็นตัวช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่แตกต่างกันไป

ด้านแนวโน้มการดูแลป้องกันสุขภาพจะมีเพิ่มมากขึ้น จะมีการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและโรคต่างๆ ในยุคที่ทุกวัยเข้าถึงโลกดิจิทัลกันได้ด้วยตนเอง รวมถึงการตรวจวินิจฉัยอาการผิดปกติเบื้องต้นผ่านแอพพลิเคชั่น 

ด้วยการทำงานของแมชีนเลิร์นนิง(Machine Learning) และ ดีฟเลิร์นนิง(Deep Learningฉ ที่ได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญจนมีความแม่นยำในการวินิจฉัย จึงเป็นโอกาสของวงการแพทย์ ที่จะติดตามข้อมูลการสืบค้นโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่อยู่ในความกังวลของคนไข้ เพื่อนำไปวิเคราะห์วางแผน ต่อยอดด้านการบริการของสถานพยาบาลของตนเองต่อไป

จากความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ภาคธุรกิจได้เรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง ที่ต้องมีความตื่นตัว ก้าวตามโลกให้ทัน และต้องรู้จักนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังที่มาของคำว่า “Data is the new oil, and AI is the new electricity” ข้อมูลเป็นเหมือนทรัพยากรที่มีคุณค่า และเอไอก็เปรียบเหมือนกระแสไฟฟ้าในโลกใหม่ นั่นเอง