ในระยะยาวเราก็จะพบว่าไม่มีใครเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
ภาวะจลาจลที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แม้จะมีจุดกำเนิดมาจากเรื่องการแบ่งแยกผิวสี แต่ความคุกรุ่นจากความขัดแย้งของชาวอเมริกันไม่ได้มีเพียงแค่ประเด็นเดียวเท่านั้น ชาวเอเชียที่มีเชื้อสายจีนทุกคนเริ่มถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนอเมริกันจำนวนมากเชื่อว่าคนเอเชียเหล่านั้น เป็นต้นตอของโรคระบาดที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันอยู่ในเวลานี้
ความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มบานปลายไปสู่การกล่าวโทษประเทศจีนว่า ต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่สหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว แต่ประเทศพันธมิตรอย่างออสเตรเลียก็เข้าร่วมการเรียกร้องดังกล่าว ด้วยทำให้จีนต้องตอบโต้ด้วยมาตรการทางการค้าต่าง ๆ
โควิด-19 จึงเป็นเหมือนชนวนเหตุให้หลาย ๆ ประเทศตั้งแง่ใส่กัน จนทำให้กระแสโลกาภิวัตน์ที่ดำเนินมาหลายสิบปีต้องหยุดชะงักลง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจึงกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง และบานปลายไปสู่ประเทศอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้เป็นสิ่งที่ประชาคมโลกต้องการจริง ๆ หรือ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การระบาดของโรคแบบโควิด-19 นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะการอุบัติของโรคติดต่อใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วดังที่เราได้เห็นในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่มีโรคร้ายแรงคร่าชีวิตประชากรโลกอยู่เป็นประจำ
การกล่าวหาว่าประเทศหนึ่งประเทศใดเป็นต้นตอของโรคระบาด แล้วพากันต่อต้านประเทศนั้นจึงไม่ใช่ทางออกใด ๆ และไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย เพราะโลกเราผ่านจุดที่แต่ละประเทศจะ “ต่างคนต่างอยู่” มานานนับร้อยปีแล้ว
ในทางตรงกันข้าม ทุกวันนี้โลกอยู่ได้ด้วยความแตกต่างหลากหลายของแต่ละประเทศ การค้าการขายเกิดขึ้นจากความถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตัวอย่างเช่นประเทศไทยของเราก็ต้องอาศัยเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวของประเทศอื่น ๆ เป็นหลัก รวมไปถึงอุตสาหกรรมก็อาศัยการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเช่นกัน
หากประเทศหนึ่งประเทศใดล้มลงย่อมส่งผลกระทบถึงประเทศอื่น ๆ อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะจีนซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นมหาอำนาจที่มีบทบาทและอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกสูงมาก หากเศรษฐกิจของจีนมีปัญหา ย่อมส่งผลกระทบถึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกแน่นอน
การเติบโตของจีนตลอด 20 ปีที่ผ่านมาสร้างประโยชน์ให้กับหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ได้เปรียบจากการได้บริโภคสินค้าที่ต้นทุนต่ำที่สุดมายาวนานเพราะได้ฐานการผลิตในเอเชียที่มีค่าแรงต่ำที่สุดมาโดยตลอด จนวันนี้หากสินค้าอย่างรองเท้า เสื้อผ้า จะกลับไปผลิตในสหรัฐฯ ต้นทุนคงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
และในเวลาเดียวกัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนก็เร่งให้องค์กรธุรกิจของสหรัฐฯ เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เพราะจีนกลายเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่ สินค้าอย่างแอปเปิลโดยเฉพาะไอโฟนจึงเติบโตในจีนอย่างรวดเร็ว
แม้จะผลิตในจีนแต่ความมั่งคั่งกลับตกอยู่กับแอปเปิ้ลแต่เพียงฝ่ายเดียว เช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำของโลกในวันนี้ที่ล้วนเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะเมซอน กูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ เฟซบุ้ค การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจึงส่งผลบวกต่อบริษัทเหล่านี้อย่างมากมาย
การกีดกันจีนย่อมส่งผลร้ายที่สหรัฐฯ โดยตรง และยังส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ เพราะเศรษฐกิจโลกในเวลานี้ล้วนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด การเอาชนะกันด้วยมาตรการทางการค้าต่าง ๆ อาจทำให้ดูเหมือนเป็นผู้ชนะในระยะแรกแต่ในระยะยาวแล้ว เมื่อผลกระทบสะท้อนกลับมาถึง เราก็จะพบว่าไม่มีใครเป็นผู้ชนะที่แท้จริง เพราะทุกประเทศต่างต้องพึ่งพาอาศัยด้วยกันทั้งนั้น ภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นวัฏจักรปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และเราจะผ่านพ้นมันไปได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจกันเท่านั้น