ยุโรปล็อกดาวน์อีกรอบสู้ COVID-19
หน้าหนาวนี้ ยุโรปต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับไวรัส COVID-19 อีกรอบ จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อในยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบน่าเป็นห่วง
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (ซึ่งเป็นช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว) จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อในยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบน่าเป็นห่วง ในครั้งนี้ การระบาดระลอกสองหรือที่เรียกกันว่า second wave คาดการณ์ว่าสถานการณ์การระบาดในประเทศในยุโรปหลายประเทศอาจจะแย่กว่าเดิม ล่าสุด รัฐบาลยุโรปหลายประเทศประกาศมาตรการ “ล็อกดาวน์” อีกรอบ
ณ วันที่ 29 ต.ค. 2563 ยุโรป ซึ่งรวมประเทศ EU/EEA (คือประเทศ EU 27 ประเทศ และ EEA คือไอซแลนด์ ลิคเทนสไตน์ นอร์เวย์) และสหราชอาณาจักร มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ถึง 6.6 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วประมาณ 200,000 คน
สถิติจากสถาบัน European Centre for Desease Preventation and Control รายงานสถานการณ์ล่าสุดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาก ทำให้หลายประเทศกลายเป็นโซนความเสี่ยงสีแดง โดยแบ่งระดับความเสี่ยงเป็น โซนสีเขียว สีส้ม สีแดง และสีเทา
มาตรการ “ล็อกดาวน์” ล่าสุด
เยอรมนี ได้ประกาศล็อกดาวน์ 4 สัปดาห์ในช่วงเดือน พ.ย. ทั้งเดือน (และอาจมีการขยายระยะเวลา) เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดลุกลามมากจนกลายเป็นวิกฤติด้านสุขอนามัยที่รับมือไม่ได้ อาทิ ร้านอาหารและบาร์ปิด งานกิจกรรมขนาดใหญ่ยกเลิก แต่กิจกรรมทางศาสนายังทำได้ การเดินทางยังทำได้เพื่อทำงานหรือทำธุรกิจ แต่โรงแรมไม่สามารถให้บริการในรูปแบบท่องเที่ยวได้ สนับสนุนให้ Work from home หากทำได้ ร้านค้าปลีกและร้านซุปเปอร์ยังเปิดทำการตามปกติ โรงเรียนยังเปิดแต่ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมาก กิจกรรมสันทนาการปิดด้วยเช่นกัน สำหรับ ฝรั่งเศสและประเทศยุโรปอื่นๆ ก็มีมาตรการล็อกดาวน์ ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกัน
การเดินทางระหว่างประเทศยุโรปยังเป็นไปได้ แต่ประเทศยุโรปแต่ละประเทศมีมารตรการสำหรับการเข้าประเทศ (จากกลุ่มประเทศเสี่ยง) แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้กักตัวหรือการกำหนดให้ต้องตรวจการติดเชื้อ ผู้เดินทางรวมทั้งการเดินทางจากประเทศที่สาม สามารถตรวจสอบกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศได้ที่ https://reopen.europa.eu/en
“ล็อกดาวน์” ระลอก 2 นี้ ประชากรเริ่มเข้าใจความจำเป็น ปรับตัว และปฎิบัติตามมาตรการดังกล่าวได้ดีขึ้น แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาวต่อยุโรปนั้นน่าเป็นห่วง พร้อมๆ กัน นี้รัฐบาลยุโรปกำลังเร่งออกมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่จะรองรับความเดือดร้อนของธุรกิจรายเล็กและรายย่อยที่ต้องปิดลง และจำนวนคนตกงานที่เพิ่มมากขึ้น
*บทความโดย ดร. อาจารี ถาวรมาศ เป็นผู้บริหารบริษัท Access-Europe บริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และนโยบายเกี่ยวกับสหภาพยุโรปสำหรับภาครัฐและเอกชนไทยที่สนใจเปิดตลาดยุโรป www.access-europe.eu หรือติดตามได้ที่ www.facebook.com/AccessEuropeCoLtd