ภาพอนาคต 'วิ่งเลียบผา' : การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19
การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ เราคนไทยคงต้องยกการ์ดขึ้นสูงอีกครั้ง ต้องประเมินสถานการณ์และร่วมกันป้องกันไม่ให้เลวร้ายจนเกินจะรับมือไหว
ผลงาน “มองภาพอนาคตประเทศไทย แนวทางการรับมือหลังวิกฤตโควิิด-19” ที่ทางสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) ได้้ร่วมกันดำเนิินการศึึกษาและจััดทำตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ช่วงแรกก ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับรางวัลผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่นตอบรับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และการปรับตัวอันเนื่องมาจากภาวะวิกฤติโควิิด-19
ผลการศึกษานี้เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ภาพอนาคตประเทศไทยที่มีโอกาสเกิดขึ้นหลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 และข้อเสนอแนะแนวทางการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศหลังสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อรองรับภาพอนาคตที่อาจเป็นไปได้
หากเปรียบเทียบ "ภาพอนาคต" ประเทศเป็นเสมือนการเดินทางแล้ว เส้นทางต่างๆที่ประเทศไทยอาจต้องเผชิญบนเส้นทางสายโควิดนี้ มี 4 เส้นทาง คือ
- ซิ่งทางด่วน (Rosy Scenario) ประเทศไทยสามารถควบคุมโรคได้เบ็ดเสร็จและเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
- ลากเกียร์ต่ำ (Slow but Sure) ประเทศไทยควบคุมโรคระบาดได้เบ็ดเสร็จ แต่ระบบเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว ภาพรวมประเทศเดินหน้าได้เรื่อยๆ อย่างช้าๆ ด้านสุขภาพค้นพบวัคซีนและยารักษาโรคได้ผล
- วิ่งเลียบผา (Risky Business) ประเทศไทยยังมีการระบาดซ้ำ แต่เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ ภาคส่วนต่างๆ เคลื่อนตัวไปได้แต่ยังอยู่บนความเสี่ยง ทำให้ธุรกิจและประชาชนต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง
- หลงป่า ติดหล่ม (Doomsday Scenario) เป็นภาพอนาคตที่เลวร้ายที่สุด ประเทศยังมีการระบาดซ้ำในขณะที่เศรษฐกิจหดตัว ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน
(ท่านที่สนใจสามารถ Download หนังสือ“มองภาพอนาคตประเทศไทย แนวทางการรับมือหลังวิกฤตโควิด-19” ได้ที่นี่ https://www.nxpo.or.th/th/report/6300/)
สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในปัจจุบัน สอดคล้องกับการวิเคราะห์ฉากทัศน์ (Scenarios) ของประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด-19 ในรูปแบบ “วิ่งเลียบผา (Risky Business)” คือด้านสุขภาพยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ ขาดแคลนผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัย ประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างทั่วถึง ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยการใช้จ่ายภายในประเทศ ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยการบริโภคสินค้าบริการและการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงได้รับการลงทุนจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ
นอกจากนี้ในด้านสังคม เกิดการระบาดซ้ำจากนอกประเทศ คือ คนไทยยังรักษามาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนภาวะภายนอกประเทศยังคงมีการระบาด ทำให้เกิดการระบาดซ้ำจากกลุ่มคนลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายหรือนักท่องเที่ยว ด้านการศึกษา ผสมผสานการเรียน-การสอน แบบออนไลน์และออฟไลน์ คือ การเรียนการสอนมีทั้งแบบออนไลน์และเข้าชั้นเรียน โดยมีหลักสูตรออนไลน์จากต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ สามารถนำมาเทียบหน่วยกิตในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้
แม้ว่า ณ ขณะนี้จะมีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นแต่ก็ยังพอจะเดินหน้าไปได้ ทุกอย่างยังไม่ถึงขั้นหยุดชะงัก สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในตอนนี้มีอย่างน้อย 3 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่
- ปรับตัว บรรเทาผลกระทบและช่่วยในการปรัับตััว ช่วยเหลือเยียวยา เพิ่มสภาพคล่อง และให้เงินช่วยเหลืออย่างตรงจุดเป็นสิ่งจำเป็นและเร่งด่วน ณ เวลานี้ พร้อมๆกันนั้นเราต้องสนับสนุนการจ้างงาน สร้างงานใหม่ ให้ผู้ได้รับผลกระทบ อาทิ จับคู่เมืองปลอดภัยเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน (Travel Bubble) ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และสุขอนามัย กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy)กระตุ้นระบบเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น เพื่อประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว สามารถพึ่งพาตัวเองได้
- เปลี่ยนแปลง ยกระดับทักษะแรงงานและพัฒนาทุนมนุษย์ ยกระดับทักษะแรงงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Reskill & Upskill) ส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์อนาคต (Future Skill) พัฒนาความเป็นผู้ประกอบการในสาขาต่างๆ อาทิ Smart Farmer , Startup ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ วิสาหกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
- เปลี่ยนผ่านธุรกิจและกิจกรรมสู่โลกดิจิทัล (Digital Transformation) พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลและกิจกรรมออนไลน์สำหรับภาคธุรกิจต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ เชื่อมโยงผู้ผลิตและผู้บริโภคโดยตรง ส่งเสริมระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเทคโนโลยี ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลด้วยการสนับสนุนอย่างทั่วถึง สนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาออนไลน์ เพิ่มทักษะด้้านดิิจิิทััลให้้ประชาชน
การมองภาพอนาคต หรือคิดแบบ Strategic Foresight ทำให้เราเห็นได้ว่า ยังมีภาพอนาคตที่เลวร้ายที่สุด แบบภาพอนาคต หลงป่า ติดหล่ม (Doomsday Scenario) ซึ่งเป็นภาพอนาคตที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนั้นประเทศจะเกิดการระบาดซ้ำในขณะที่เศรษฐกิจจะยิ่งหดตัว ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ทำให้อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานมาก
วิ่งเลียบผา ภายใต้การระบาดระลอกใหม่ ถึงจะเสี่ยงแต่ก็ยังพอเดินทางไปกันได้ เราคงไม่อยากให้ประเทศเดินทางไปถึงเส้นทางที่ต้อง หลงป่า ติดหล่ม ฉะนั้นอย่ารอช้าที่จะปรับตัว เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนผ่าน
*บทความโดย ประกาย ธีระวัฒนากุล
สถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation: TFF)
https://www.facebook.com/thailandfuturefoundation/