ความเป็นผู้นำ…‘ทักษะแห่งชีวิต’
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ร่วมงานมอบประกาศนียบัตรหลักสูตร LeadershipACT พัฒนาผู้นำไทยก้าวไกลระดับสากล จัดโดย สลิงชอท กรุ๊ป
ในงานนี้ ถือเป็นหลักสูตรสำหรับ CEO ที่จัดยาวนานอีกหลักสูตรหนึ่ง ถึง 10 สัปดาห์ต่อเนื่อง ในงานมี CEO กว่า 20 ท่านมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จเส้นทางแห่งการเรียนรู้พัฒนาความเป็นผู้นำในครั้งนี้
แม้งานจะจบหลักสูตรมากว่าสัปดาห์ แต่ดิฉันยังยิ้มไม่หุบทุกครั้งที่นึกถึงภาพ CEO กลุ่มนี้ที่มาร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และมิตรภาพที่เกิดขึ้นตลอด 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สำคัญที่สุดคือ ดิฉันได้หาคำตอบให้กับคำถามที่ค้างคาใจมานานแสนนาน
“CEO ส่วนใหญ่ยุ่งมาก จัด 10 ครั้ง เขาจะมีเวลามาเรียนเหรอ?”
“จัดตอนโควิด ไม่มีใครอยากมาเรียนหรอก”
“ระดับ CEO เขาไม่อยากมาเรียนแบบ Workshop กันแล้ว ควรหาวิธีอื่นดีกว่าไหม?”
“CEO ส่วนใหญ่ก็ผ่านหลักสูตรผู้นำมาหมดแล้ว ต้องเป็นอะไรที่ใหม่ ๆ เท่านั้นถึงจะสนใจ?”
“คนระดับนี้ เขาคงไม่อยากมาเรียนกับวิทยากรไทย หาต่างชาติมาดีกว่าไหม ถึงจะเอาอยู่?”
“ถ้าเช็คเวลาเข้าเรียน 80% ไม่น่าจะมีท่านใดเรียนจบหลักสูตรนะ?”
คำถามเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายที่ในฐานะผู้จัด ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ลุ้นทุกครั้งตลอด 10 สัปดาห์ ว่าท่านผู้นำจะมาเรียนไหม แล้ว feedback จะออกมาดีหรือไม่ ท่านจะมีส่วนร่วมในคลาสเรียนหรือไม่ คราวหน้าจะกลับมาเรียนไหม
แน่นอนค่ะ ขึ้นชื่อว่าผู้นำองค์กรระดับแถวหน้าของเมืองไทย ท่านไม่ทำให้เราผิดหวังจริง ๆ เมื่อพวกเขาต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองเป็นเป้าหมายหลัก และการอยู่ร่วมกับทั้ง 20 ท่านตลอด 10 สัปดาห์ในบรรยากาศเรียนรู้ แลกเปลี่ยน เชื่อใจและศรัทธา เราเห็นชัดเจนว่า
ความเป็นผู้นำไม่ใช่เพียงการทำตามบทบาทภายใต้ตำแหน่งและองค์กรที่ได้รับมอบหมาย แต่มันคือตัวตนที่แท้จริง และมันคือทักษะแห่งชีวิต
1. ความเป็นผู้นำเริ่มต้นที่ตนเองเราไม่สามารถนำคนอื่นจนกว่าจะนำตนเองได้ ตั้งแต่ตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต ขับเคลื่อนมันด้วยคุณค่า และมุ่งมั่นทำมันให้สำเร็จ ไม่เคยมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนไหนขาดความมุ่งมั่น ขาดความรับผิดชอบ เพราะผู้ที่มุ่งมั่นหมั่นเรียนรู้คือผู้ที่สำเร็จและเติบโต
2. ทัศนคติเชิงบวกคือกุญแจไขความสำเร็จของผู้นำ ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้โดยการปรับเปลี่ยนความคิดตนเองก่อนการคิดไปเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่น การมีทัศนคติเชิงบวกกับสิ่งรอบตัว ส่งเสริมให้เกิดการเปิดใจรับสิ่งใหม่ ทำตัวเช่นน้ำไม่เต็มแก้ว ไม่ยึดติดกับความสำเร็จ เปิดรับการเรียนรู้ มุมมองจากคนอื่นที่เห็นต่างเพื่อพัฒนาเราให้เป็นคนที่สมบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้น
3. แรงบันดาลใจสร้างได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเสมอไป การสื่อสารที่ดีที่สุดคือการพาตัวตนที่แท้จริงเข้ามาสู่กระบวนการเรียนรู้ ลงมือทำ แบ่งบัน ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจ สนใจผู้อื่นอย่างแท้จริง และการรับฟังผู้อื่นเป็นคุณสมบัติสำคัญที่คนเป็นผู้นำสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่รอบตัวได้อย่างจริงใจและยั่งยืนที่สุด ดังที่ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน กล่าวว่า “หูของผู้นำต้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงของผู้คน”
ไม่แปลกเลยค่ะ ที่กลุ่มผู้นำกลุ่มนี้ใช้ทักษะผู้นำ ‘ทักษะแห่งชีวิต’ พาองค์กรและทีมงานให้เรียนรู้ พัฒนา ประสบความสำเร็จในระดับแถวหน้าของไทยและก้าวสู่เวทีโลกอย่างน่าภาคภูมิใจ