จากการสังหารคนไทยในอเมริกา
การเสียชีวิตของชายไทยวัย 84 ปีในย่านเมืองซานฟรานซิสโกเมื่อ 2 เดือนก่อน เป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐ ทั้งที่การเสียชีวิตด้วยน้ำมือของผู้อื่น
เนื่องจากภาวะแวดล้อมบ่งชี้ว่าสาเหตุเป็นการรังเกียจผิวซึ่งกฎหมายอเมริกันถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงสูงสุด นอกจากเรื่องชายไทยรายนั้นแล้ว ในช่วงนี้ยังมีรายงานการทำร้ายร่างกายผู้ที่มีหน้าตาบ่งชี้ว่าไปจากภาคเอเซียตะวันออกเกิดขึ้นถี่มากอีกด้วย ผู้สังเกตการณ์มักสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากการที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาว่าจีนเป็นผู้ก่อให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันตายแบบใบไม้ร่วง การกล่าวหาดังกล่าวเป็นเสมือนการจุดชนวนระเบิดเวลาให้ปะทุออกมาเนื่องจากในสังคมอเมริกันมีการเหยียดหยามชาวเอเซียตะวันออกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่ชาวจีนอพยพเข้าไปอยู่ในอเมริกาซึ่งเป็นเวลาครบ 150 ปีพอดีในปีนี้ แต่ไม่เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง
เมื่อพูดถึงการกีดกันและรังเกียจ หรือเหยียดผิว สังคมอเมริกันมีสภาพขัดแย้งกันอยู่ในตัวอย่างกว้างขวางมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันก่อตั้งประเทศ กล่าวคือ แนวคิดพื้นฐานต้องการเป็นสังคมประชาธิปไตยผสมระบบตลาดเสรีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม แต่ในขณะเดียวกันก็มีการกีดกันโดยมีผิวพรรณเป็นเกณฑ์ตัดสินรวมอยู่ด้วย เรื่องที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางที่สุดได้แก่คนผิวขาวรังเกียจคนผิวดำซึ่งเป็นลูกหลานของทาสที่ถูกจับไปจากแอฟริกา ความเห็นต่างในการกีดกันคนผิวดำนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นสงครามกลางเมืองหลังก่อตั้งประเทศ 84 ปี อย่างไรก็ตาม นอกจากเกี่ยวกับคนผิวดำแล้ว ยังมีการกีดกันและเหยียดหยามกันอีกมากจากวันก่อตั้งประเทศมาถึงวันนี้ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รับรู้กัน
กลุ่มที่รังเกียจและเหยียดหยามผู้อื่นแบบเป็นตัวยืนได้แก่ ชนผิวขาวเชื้อสายอังกฤษที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ซึ่งเป็นกลุ่มก่อตั้งประเทศสหรัฐและครองอำนาจด้านต่าง ๆ มาจนกระทั่งวันนี้ กลุ่มที่ถูกเหยียดหยามมากและยาวนานที่สุดได้แก่ชาวพื้นเมืองดั้งเดิมซึ่งบางครั้งถูกอ้างถึงด้วยคำว่า “อินเดียนแดง” นอกจากนั้น ชาวอเมริกันผิวขาวดังกล่าวยังรังเกียจ หรือเคยเหยียดหยามชาวไอริส ชาวอิตาเลียน ผู้นับถือศาสนาโรมันคาธอลิก และผู้นับถือศาสนายิวอีกด้วย การรังเกียจนั้นร้ายแรงมากถึงขั้นผู้มีเชื้อสายอิตาเลียนเคยถูกแขวนคอหมู่ 11 คนเมื่อ 130 ปีก่อนที่เมืองนิวออร์ลีนส์ นับเป็นการแขวนคอหมู่ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ ผู้มีเชื้อสายอิตาเลียนและผู้มีผิวขาวโดยทั่วไปมักได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงเป็นประธานาธิบดีที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกคนที่ 2 รองจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในขณะเดียวกันก็มองได้ว่าการยอมรับกันและกันในสังคมอเมริกันก็เป็นไปอย่างกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้การรังเกียจกันจะยังมีอยู่ก็ตาม ตัวอย่างหลักได้แก่การมีประธานาธิบดีผิวดำคนแรกเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมาชื่อบารัค โอบามา ตามด้วยในขณะนี้มีรองประธานาธิบดีเป็นสตรีลูกผสมระหว่างชายผิวดำและหญิงอินเดีย นอกจากนี้ยังมี นักการเมืองระดับสูงอีกจำนวนหนึ่งซึ่งรวมทั้งรัฐมนตรีมหาดไทยที่เป็นสตรีเชื้อสายชาวพื้นเมืองดั้งเดิมชื่อ เดบ ฮาแลนด์ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อกลางเดือนมีนาคม วุฒิสมาชิกและผู้แทนราษฎรหลายคนรวมทั้งวุฒิสมาชิกสตรีเชื้อสายไทยชื่อ ลัดดา ดักค์เวอร์ธ
ในฐานะคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ ผมได้รับความห่วงใยและการบอกให้ระวังตัวจากกัลยาณมิตรอย่างต่อเนื่องเรื่องอาจจะถูกทำร้ายในช่วงนี้ ผมรับฟังและพยายามปฏิบัติตามความหวังดีตลอดเวลา แต่ไม่เคยมีโอกาสอธิบายมุมมองของผมว่า ผมอาศัยอยู่ในสหรัฐมากว่า 50 ปีและมีความแน่ใจเต็มร้อยว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่รังเกียจผิว นอกจากนั้น แนวโน้มยังบ่งว่าสังคมของเขาน่าจะพัฒนาต่อไปได้ดีขึ้นอีกด้วย ประเทศของเขาก่อตั้งมาเพียง 245 ปี นับว่าน้อยมากหากเทียบกับประเทศส่วนใหญ่รวมทั้งไทยด้วย ผมจึงมองว่า เขาน่าจะยังมีเวลาพัฒนาต่อไปจนไม่มีการรังเกียจผิวเหลืออยู่ ถึงเขาจะต้องใช้เวลาอีก 100 ปีก็ยังนับได้ว่าไม่มากหากมองจากกล้องของวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์