จะฉีดให้ครบ 50 ล้านคน อาจต้องใช้มาตรการบังคับด้วย
รัฐบาลประกาศเมื่อ 16 มิ.ย.64 จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศภายใน 120 วัน เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจการทำมาหากินของประชาชน
ในการเปิดประเทศครั้งนี้ รัฐบาลฝากความหวังไว้กับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนในให้มากที่สุดโดยเฉพาะในท้องที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ มีจุดมุ่งหมายจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้ 50 ล้านคน
ในช่วงนี้ประชาชนตื่นตัวในการฉีดวัคซีนมาก จนเกิดปัญหาในการจัดคิว แต่ก็มีประชาชนไม่น้อยที่ได้รับข่าวสารปลอม ปั่นกระแสฉีดวัคซีนแล้ว ป้องกันโควิด-19 ไม่ได้ แต่กลับมีผลข้างเคียงที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต ประชาชนส่วนนี้จะไม่ยอมฉีดวัคซีน นอกจากนี้ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เนื่องจากความเชื่อส่วนตัว
หากมีประชาชนจำนวนมากไม่ยอมฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ก็อาจทำให้เป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้ 50 ล้านคนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวให้เต็มที่ อาจไม่บรรลุเป้า เป็นปัญหาที่รัฐบาลจะต้องแก้ไข
การแก้ไขปัญหาประชาชนไม่ยอมฉีดวัคซีน นอกจากการโหมชี้แจงประโยชน์ของการฉีดวัคซีน ข้อมูลที่ถูกต้องในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนรับทราบอย่างจริงจังแล้ว อาจจะต้องใช้มาตรการบังคับซึ่งสามารถดำเนินเนินการได้สองวิธี คือออกกฎหมายบังคับโดยตรงให้ประชาชนที่เข้าข่ายต้องฉีดวัคซีน หรือใช้มาตรการบังคับทางอ้อม เช่น กำหนดเงื่อนไขให้บุคลากรภาครัฐจะต้องรับการฉีดวัคซีน หรือบุคคลที่จะเข้าไปใช้บริการของรัฐ หรือจะขอรับสิทธิประโยชน์ที่รัฐจัดให้ จะต้องเป็นผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว และอาจขอความร่วมมือให้เอกชนช่วยดำเนินการบังคับทางอ้อมด้วย เช่น กำหนดเป็นเงื่อนไขของการจ้างงานลูกจ้างจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ครบโดส ด้วย ทั้งนี้การใช้มาตรการบังคับทางอ้อม น่าจะเหมาะสมกว่าการบังคับโดยตรง
มาตรการบังคับให้ประชาชนต้องฉีดวัคซีน มีการดำเนินการกันแล้วในหลายประเทศที่มีปัญหาการระบาดของโควิด-19ที่รุนแรง เช่น
สหรัฐอเมริกา ผู้ประกอบการเอกชน กำลังพิจารณาว่า จะกำหนดให้ลูกจ้างต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการจ้างอย่างไรหรือไม่ แต่ในธุรกิจโรงพยาบาล การขนส่ง ค้าปลีก มีเหตุผลที่หนักแน่นที่สมควรดำเนินการดังกล่าว ซึ่งมีแนวทางออกมาแล้ว นอกจากลูกจ้างต้องสวมหน้ากากอานามัยแล้วะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสด้วย
โรงพยาบาลในรัฐเท็กซัสแห่งหนึ่ง ออกประกาศให้ลูกจ้าง 26,000 คนทราบว่า หากยังต้องการคงสภาพการจ้าง ทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ครบโดส เว้นแต่เป็นกรณีที่มีปัญหาไม่อาจฉีดวัคซีนได้ เพราะเหตุผลทางการแพทย์หรือความเชื่อทางศาสนา จึงทำให้มีพยาบาลและบุคลากรลูกจ้างของโรงพยาบาลดังกล่าวร้อยกว่าคนฟ้องต่อศาลในรัฐเท็กซัส กล่าวหาว่า ข้อกำหนดดังกล่าวของนายจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลในรัฐเท็กซัสพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง โดยคำพิพากษาตอนหนึ่ง ระบุว่า กฎหมายของรัฐเท็กซัสปกป้องลูกจ้างจากการถูกเลิกจ้างกรณีปฏิเสธไม่กระทำการที่ผิดกฎหมายที่อาจถูกลงโทษทางอาญา แต่การฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่มีโทษทางอาญา และชี้ว่ามาตรการให้ฉีดวัคซีนไม่ใช่การบีบบังคับลูกจ้าง แต่เป็นมาตรการเพื่อทำให้บรรดาพนักงานของโรงพยาบาล คนไข้ และครอบครัวมีความปลอดภัยมากขึ้น โจทก์มีเสรีภาพในการเลือกที่จะยอมรับการฉีดวัคซีนหรือปฏิเสธการฉีดวัคซีน ถ้าปฏิเสธไม่ฉีดวัคซีนก็ทำได้ง่าย เพียงไปหางานใหม่ทำแค่นั้นเอง
อาเซอร์ไบจาน ก็มีข่าวว่าผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาเสนอร่างกฎหมายบังคับให้ประชาชนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หลังจากปรากฏว่าประชาชน ยังมีความลังเลในการฉีดวัคซีน
อังกฤษ กำลังมีการพิจารณาที่จะกำหนดให้ผู้ดูแลผู้ป่วย คนชราในสถานที่ดูแลคนป่วยและคนชรา จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มิฉะนั้นอาจต้องเปลี่ยนงาน
ฟิลิปปินส์ อันเนื่องมาจากตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่ำกว่าเป้าหมายมาก เมื่อวันที่22 มิถุนายน2564 ประธานาธิบดี Duterte ออกแถลงทางโทรทัศน์ ขู่ว่าผู้ปฏิเสธฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะได้รับโทษจำคุก หรือจะได้รับการฉีดวัคซีน Livermectin ที่ใช้ฉีดป้องกันพยาธิในสัตว์แทน
คดีในศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป
เป็นคดีระหว่างชาวเช็ค 6 รายกับรัฐบาลสาธารณรัฐเช็ค อันเนื่องจาก สาธารณรัฐเช็คมีกฎหมายบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง ที่เด็กจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค 9 โรค ที่เป็นที่รับรู้กันในวงการสาธารณสุข ผู้ปกครองของเด็กที่ละเลยไม่จัดให้เด็กได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวโดยไม่มีเหตุผลที่รับฟังได้ จะต้องถูกลงโทษปรับ ส่วนเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก
ผู้ปกครองรายหนึ่งที่มีบุตร 2 คน ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจึงถูกลงโทษปรับ และผู้ปกครองบุตรที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียนเพราะไม่ได้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอีก 5 ราย ยื่นฟ้องรัฐบาลสาธารณรัฐเช็คต่อศาลแห่งสาธารณรัฐเช็ค แต่ศาลยกฟ้อง ผู้ปกครองเด็กจึงทยอยยื่นฟ้องสาธารณรัฐเช็คต่อศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ข้อหาละเมิดสิทธิในชีวิตส่วนบุคคล ฝ่าฝืนมาตรา 8 ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ศาลรวมคดีและมีคำพิพากษาโดยองค์คณะใหญ่เมื่อ วันที่ 8 เมษายน 2564 โดยเสียงข้างมาก 16 ต่อ 1 พิพากษาว่า สาธารณรัฐเช็คไม่ได้ฝ่าฝืนข้อ 8 ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ศาลระบุในคำพิพากษาตอนหนึ่งว่า การดำเนินนโยบายของสาธารณรัฐเช็คเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายเพื่อปกป้องสุขภาพ และก็เป็นการปกป้องสิทธิของบุคคลอื่นด้วย และชี้ว่าการฉีดวัคซีนปกป้องทั้งผู้ฉีดและปกป้องผู้ที่ไม่อาจฉีดวัคซีนได้เพราะเหตุผลทางการแพทย์ด้วย ในแง่ที่ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ที่ป้องกันเชื้อโรคร้ายที่แพร่กระจายง่ายด้วย ซึ่งก็เป็นที่พอใจของประชาชนชาวเช็คส่วนใหญ่
ความเห็น หากรัฐบาลไทยกำหนดมาตรการบังคับทางอ้อมให้ประชาชนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ให้ได้ 50 ล้านคน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งอาจมีประชาชนบางคนฟ้องต่อศาลกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ก็น่าจะใช้เหตุผลตามที่ปรากฏในคำพิพากษาของศาลเท็กซัส และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป เป็นแนวทางในการสู้คดีได้.