กองทุนติดดาวที่บริหารแบบเชิงรุก (Active Fund) ในตลาดหุ้นโลก และสหรัฐอเมริกา
คราวที่แล้วผมเขียนเรื่องกองทุนที่อ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ Dow Jones, S&P500, Nasdaq และ Russell 1000 ไปแล้วคราวนี้ถึงคิวกองทุน Active Fund ในตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นสรหัฐอเมริกากันบ้างครับ
การเลือกกองทุนที่น่าสนใจจะใช้ข้อมูลจาก Morningstar ครับ การจัดอันดับของเขาจะพิจารณาถึงผลตอบแทน ความเสี่ยง และความผันผวน ประกอบกัน มีตั้งแต่ 1 ดาว – 5 ดาว ซึ่งกองทุนที่ได้ 5 ดาว (ผมจะใช้สัญลักษณ์ *) จะดีที่สุดเมื่อเทียบกับกองอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน โดยผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลกองทุนที่อัพเดท ได้ที่เว็บไซต์ www.morningstarthailand.com
กองทุนติดดาวที่บริหารแบบ Active Fund ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกมีดังนี้
กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth (TMBGQG)* ลงทุนในกองทุนหลัก Wellington Global Quality Growth Fund เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการสร้างสมดุลระหว่าง หุ้นเติบโตกับหุ้นคุณค่า ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกทั้งด้านของผลตอบแทนและคุณภาพของหุ้น หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Microsoft, Amazon, Facebook, United Health, Taiwan Semiconductor, Partners Group Holding, Eli Lilly and Co, JPMorgan Chase และ Adobe
กองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG)*ลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบทวีคูณในทศวรรตหน้า จากการปรับตัวตามกระแสนิยมของโลก หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Modena, Amazon, Tesla, ASML, Illmina, NVIDIA, Meituan, Kering, Tencent และ Shopify
กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ (PRINCIPAL GOPP)* ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Fund เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาว จากหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลกและตลาดเกิดใหม่ ซึ่งราคายังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ในบริษัทที่มีศักยภาพการแข่งขันอย่างยั่งยืน และมีการเติบโตของรายได้ในอนาคต หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Amazon, Mastercard, DSV Panalpina, Servicenow, Shopify, Alphabet, HDFC Bank, Uber Technologies, VISA และ Adobe
กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อิควิตี้ (LHGEQ)*ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Focused Growth Equity Fund เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาวในหุ้นที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตและมีกำไรอย่างสม่ำเสมอทั่วโลกรวมถึงตลาดเกิดใหม่ หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Facebook, United Health, Charles Schwab, London Stock Exchange, Alphabet, Amazon, Airbus, GE, Recruit Holdings และ T-Mobile US
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE)*เป็นกองทุนแบบ Fund of Funds คือ ในหนึ่งกองทุนสามารถไปลงในหลายกองทุนได้ ไม่จำกัดว่ากองใดเป็นกองทุนหลัก รวมถึงมีการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนเองด้วย 5 อันดับแรกประกอบด้วย หน่วยลงทุน Allianz Global Artificial Intelligence, หน่วยลงทุน Fidelity Funds – China Consumer Fund, หน่วยลงทุน Wellington Fintech Fund, หุ้น Amazon และ หุ้น Lululemon Athietica
แถมด้วยกองทุน Passive Fund ที่ลงทุนทั่วโลกอ้างอิงตามดัชนี MSCI ACWI Index จะประกอบด้วยหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market) 23 ประเทศ และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) 27 ประเทศ หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Apple, Microsoft, Amazon, Facebook, Alphabet A, Alphabet C, Tesla, NVIDIA, TSMC และ JPmorgan Chase กองทุนหลักจะเป็น iShares MSCI ACWI ETF โดยมีกองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ พาสซีฟ (K-WORLDX), กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล อิควิตี้ พาสซีฟ ฟันด์ (KT-GEQ-A) และ กองทุนเปิดเคเคพี พาสซีฟ โกลบอล อิควิตี้ เฮดจ์ (KKP PGE-H)
กองทุนติดดาวที่บริหารแบบ Active Fund ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐมีดังนี้
กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A (K-USA-A)* ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley US Advantage Fund เน้นสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้นคุณภาพ ตราสินค้าเป็นที่ยอมรับ มีศักยภาพการแข่งขัน กระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Shopify, Square, Snowflake, Twitter, Veeva Systems, Twilio, Amazon, Intuitive, Zoom และ ASML
กองทุนเปิดทหารไทย US Blue Chip Equity (TMBUSBLUECHIP)*ลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV — US Blue Chip Equity Fund เน้นการสร้างผลตอบแทนระยะยาว จากการกระจายการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หุ้น 10 ตัวแรกประกอบด้วย Alphabet, Amazon, Microsoft, Facebook, Apple, Visa, ServiceNow, PayPal, SEA และ Intuit
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN)* ทาง บลจ. ไทยพาณิชย์เป็นคนเลือกหุ้นและลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เอง หุ้น 5 ตัวแรกประกอบด้วย ServiceNow, Crowdstrike, Doordash, Adobe และ SEA ltd.
บางกองทุนอาจจะแบ่งเป็นหลาย Class เช่น แบบสะสมมูลค่า แบบจ่ายเงินปันผล แบบรับซื้อคือหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และแบบเป็นกองทุน RMF หรือ SSF ซึ่งผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุนครับ