แรงสะเทือน ลอกสุนทรพจน์ | ชำนาญ จันทร์เรือง

แรงสะเทือน ลอกสุนทรพจน์ | ชำนาญ จันทร์เรือง

แรงสะเทือนตามมาหลังจากที่เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP 26)

เพราะมีประโยคที่เป็นปัญหา คือ “เราทุกคนไม่มีแผนสองในเรื่องการรักษาเยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มีโลกที่สอง ซึ่งเป็นบ้านของพวกเราเหมือนโลกนี้อีกแล้ว” ซึ่งอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้พูดเมื่อปี 2015 ว่า “We only get one planet. There is no Plan B." (เรามีโลกเพียงใบเดียว ไม่มีแผนสองอีกแล้ว) (www.independent.co.uk/news/world/americas/obama-reveals-new-climate-change-initiative-we-only-get-one-planet-there-no-plan-b-10436273) 
    ในขณะเดียวกันก็มีการพบว่า บัน คี มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติได้พูดไว้ก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2014และเขาได้พูดซ้ำอีกครั้งในปี 2018 คือ  "There is no plan B because we do not have Planet B" (เราไม่มีแผนสอง เพราะว่าเราไม่มีโลกที่สองอีกแล้ว) (www.youtube.com/watch?v=TNFU7xpSElk) พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงว่า “ผู้นำอาจคิดเหมือนกันก็ได้ ใครจะไปจำได้ว่าคนอื่นพูดว่าอย่างไร และคำนี้กระทรวงการต่างประเทศก็คิดให้ ได้ถามกระทรวงการต่างประเทศว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ในเรื่องของการใช้คำว่าแพลน เอ แพลน บี ซึ่งคำว่าแพลนบี เป็นคำศัพท์ของกระทรวงต่างประเทศ  ทุกประเทศก็ใช้เหมือนกัน” (https://news.thaipbs.or.th/content/309318) 

กรณีศึกษาในต่างประเทศ
1.เมลาเนีย ทรัมป์ ลอก มิเชล โอบามา เป็นกรณีของเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีประชุมใหญ่พรรค   รีพับลิกัน เมื่อปี2016 แล้วถูกจับได้ว่า เนื้อหาบางส่วนในสุนทรพจน์ที่เธอกล่าว ลอกมาจากสุนทรพจน์ของมิเชล โอบามา บนเวทีประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต เมื่อปี 2008    
    ซึ่งเมเรดิท แมคไคลเวอร์ ผู้เขียนสุนทรพจน์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า เมลาเนีย ทรัมป์ ชื่นชอบมิเชล      โอบามา และเคยอ่านบางข้อความในสุนทรพจน์ของนางโอบามาเป็นตัวอย่างให้ฟังถึงสิ่งที่ต้องการพูดในที่ประชุมใหญ่ เธอจึงจดบันทึกไว้ ต่อมาได้ใส่ข้อความเหล่านั้นไว้ในร่างสุนทรพจน์จริง เธอยอมรับว่าพลาดที่ไม่ได้ตรวจสอบกับสุนทรพจน์ของมิเชล โอบามาก่อน 
    แมคไคลเวอร์ ได้ขอโทษที่ความผิดพลาดของเธอ และได้ขอลาออก แต่ถูกทรัมป์ปฏิเสธ โดยกล่าวว่าคนเราทำผิดพลาดโดยสุจริตได้ ซึ่งเธอชื่นชมวิธีที่ทรัมป์รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและซาบซึ้งที่เขาเข้าใจ  

2.มารีน เลอ เปน ลอก ฟรองซัวส์ ฟียง เป็นกรณีที่นางมารีน เลอ เปน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจากพรรคฝ่ายขวาจัดถูกกล่าวหาว่ากล่าวปราศรัยโดยใช้ถ้อยคำเดียวกับที่นายฟรองซัวส์ ฟียง คู่แข่งที่พ่ายแพ้ไปในการเลือกตั้งรอบแรก เคยใช้กล่าวปราศรัยก่อนหน้านี้
    Ridicule TV ระบุว่า นางเลอ เปน จากพรรคเนชันแนล ฟรอนต์ ลอกคำพูดที่นายฟียงเคยพูดไว้เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2017 แบบ "คำต่อคำ" ในระหว่างที่เธอขึ้นปราศรัยเนื่องในวันแรงงานต่อประชาชนทางตอนเหนือของกรุงปารีส โดยถ้อยคำที่นางเลอ เปน ถูกกล่าวหาว่าลอกนายฟียง อาทิ "รายชื่อผู้รอเข้าสมาคมฝรั่งเศสในเซี่ยงไฮ้ โตเกียว หรือเม็กซิโก เพื่อที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมฝรั่งเศสในกรุงราบัตหรือกรุงโรม"     ต่อมาได้มีการปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น 

โดยชี้ว่าคำปราศรัยดังกล่าวคือการที่นางเลอ เปน แสดงความเห็นด้วยกับนายฟียง ซึ่งเป็นการเปิดกว้าง ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ขณะที่ผู้จัดการทีมหาเสียงกล่าวว่า สุนทรพจน์ของนางเลอ เปน เป็นการแสดงความยกย่องนายฟียง ซึ่งต่อมานางเลอ เปน ได้พ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ในที่สุด

3. ติโต ซอตโต สมาชิกวุฒิสภาฟิลิปปินส์ กรณีนี้เป็นกรณีที่ติโต ซอตโต(Tito Sotto)สมาชิกวุฒิสภาฟิลิปปินส์หลายสมัย ถูกจับได้ว่าลอกข้อความของบุคคลต่างๆหลายคน มาใส่ไว้ในคำปราศรัยของเขาจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ในปี 2011 ได้นำข้อความมาจากบล็อกของ Sarah Pope บล็อกเกอร์นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันมาใช้ ซึ่งเธอวิพากษ์วิจารณ์ซอตโตอย่างรุนแรงถึงการลอกผลงานนี้
    แต่ซอตโตยืนยันว่า เขาไม่เห็นอะไรผิดปกติกับการใช้บล็อกของเธอโดยไม่มีการระบุแหล่งที่มา เพราะเป็น "สาธารณสมบัติ" และ "บล็อกไม่ครอบคลุมลิขสิทธิ์ มันเป็นสื่อใหม่และยังไม่มีกฎหมายรองรับ"  ซอตโตยังย้ำด้วยว่าสุนทรพจน์เป็นเอกสิทธิ์ของเขาภายใต้การคุ้มครองของมาตรา 6 และมาตรา 11 ของรัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์  ซึ่งระบุว่า "ห้ามมิให้สมาชิก (รัฐสภา ) ถูกสอบสวนและไม่ต้องรับผิดสำหรับการพูดหรือการอภิปรายใด ๆ ในรัฐสภา หรือในคณะกรรมการใดๆ”
    นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2012 Kerry KennedyลูกสาวของRobert F. Kennedy สมาชิกวุฒิสภาอเมริกันผู้ล่วงลับ เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงซอตโต กล่าวหาว่าเขาลอกข้อความของ Robert อย่างโจ่งแจ้งในคำพูดของเขาต่อวุฒิสภาฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2012 ซึ่งซอตโตได้ออกมาขอโทษครอบครัวเคนเนดี แต่ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขาเป็นผู้ขโมยความคิดในคำพูดของเขา 
    ซอตโตให้เหตุผลว่าข้อความที่ถูกกล่าวหาว่าลอกนั้น มาจากข้อความที่ผู้นำคริสเตียนส่งมาให้ ซึ่งเขาได้แปลเป็นภาษาตากาล็อก โดยเขาเห็นว่ามันเหมาะกับคำพูดของเขา โดยไม่รู้ว่าคำพูดนั้นเป็นของเคนเนดี เขายังแย้งว่าเขาไม่เคยอ้างความคิดและคำพูดเป็นของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ถือว่าเป็นการลอก 

ในแวดวงวิชาการไทยเรานั้น ถ้ามีการตรวจพบว่าเป็นการลอกผลงาน ผลที่เกิดขึ้นอาจเป็น เช่น ผลงานไม่ได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์หรือเผยแพร่ หรือไม่ผ่านการประเมิน และหากตรวจพบภายหลัง จะถูกถอดถอนคุณวุฒิหรือตำแหน่ง และหากเป็นข้าราชการ/อาจารย์/บุคลากร อาจส่งผลต่อความผิดทางวินัย/ หากผลงานเดิมมีลิขสิทธิ์ อาจต้องถูกพิจารณาโทษตามกฎหมายอีกด้วย
    แต่สำหรับนักการเมืองของไทยนั้น ยังไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ.2564 ข้อที่ 5(6)ที่บัญญัติว่า ”ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง”ซึ่งต้องรอดูว่าจะมี “นักร้อง”ไปร้อง ปปช.เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ แล้วผลเป็นอย่างไร
    แต่ที่แน่ๆ พล.อ.ประยุทธ์และคนร่างสุนทรพจน์ต้องรับผิดชอบ  อย่างน้อยกล่าวคำว่า “ขอโทษ” ก็ยังดี แทนที่จะแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆอย่างนี้น่ะครับ.