รักษาคนก่อนหมดโควิด

รักษาพนักงานให้อยู่กับเราอย่างไร ก่อนโควิดหายไป

ช่วงวิกฤติโควิด ธุรกิจไปต่อไม่ไหว ต้องลดค่าใช้จ่าย ลดคน ปิดกิจการ คนตกงานมากขึ้น ทำให้มืออาชีพและลูกจ้างที่ออกจากงาน เปลี่ยนอาชีพไปขายของออนไลน์ อยู่บ้านทำขนม กลับบ้านต่างจังหวัด ทำเกษตร เปิดร้านโชห่วย ไม่คิดหวนกลับสู่อาชีพเดิม

เมื่อโควิดหาย กิจการกลับมาเปิดใหม่ ร้านกาแฟ สายการบิน พร้อมรับลูกค้า แต่ขาดคนทำงาน งานก่อสร้างขาดแรงงาน เพราะคนงานกลับประเทศ บาริสต้ามือทองหนีไปเปิดร้านต่างจังหวัด เชฟกะทะเหล็กตกงานไปขายขนม ไม่อยากกลับสู่งานประจำ คนทำงานกลายเป็นของหายาก โดยเฉพาะคนที่รู้งาน

แล้วจะหาคนจากไหน ทางออกง่ายที่สุดคือซื้อตัวจากคู่แข่ง ได้คนรู้งาน ไม่ต้องเทรน ทำงานได้ทันที

บริษัทหรือกิจการที่รอดจากโควิดต้องกอดพนักงานที่ทรงคุณค่าไว้ให้แน่น ก่อนถูกแย่งชิง

เมื่อแรง Push กับแรง Pull มาเจอกัน คนก็พร้อมออกจากงาน ไม่มีคนชวนไปทำงานก็อยู่ที่เดิม ไม่เบื่อเจ้านายก็ไม่ดิ้นรนออก แต่เมื่อได้ข้อเสนอใหม่ เงินดี งานท้าทาย หัวหน้าเก่ง ก็พร้อมย้ายทันที

การสร้างเกราะป้องกันเพื่อรักษาพนักงานของบริษัทเป็นสิ่งที่เจ้าของหรือ CEO ต้องใส่ใจ

เรื่องแรกต้องดูแลสวัสดิการ ผลตอบแทนให้เหมาะสมกับค่างาน พนักงานที่อยู่นานมักได้ขึ้นเงินเดือนตามอัตราเงินเฟ้อ อยู่เป็นสิบปีกว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนขึ้นสะสมมาหลายปีไม่เท่ากับการย้ายงานเพียงครั้งเดียว การปรับโครงสร้างเงินเดือนอยู่เสมอให้แข่งขันกับตลาดได้ มีสวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล อยู่ในระดับแนวหน้า เป็นเกราะป้องกันชั้นแรกที่ต้องสวมใส่ให้คนของเรา

สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่าผลตอบแทนทางการเงิน โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด ออฟฟิศทันสมัย ตกแต่งน่าทำงาน สะอาด ปลอดเชื้อ คุณภาพอากาศได้มาตรฐาน เป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อการเลือกองค์กรสำหรับพนักงานยุคนิวนอร์มอล์

การทำงานจากบ้านเป็นเวลานาน ประชุมต่อเนื่องจนเลยเวลาพักผ่อน ความเมื่อยล้าจากการนั่งเก้าอี้ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อากาศร้อน ไวไฟช้า วุ่นวายกับสมาชิกในครอบครัว มักสร้างความเครียด ความกดดัน เป็นพิษต่ออารมณ์ ความรู้สึกของพนักงาน บริษัทต้องไม่ทอดทิ้งการดูแลจิตใจคนทำงาน

การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์กับพนักงานที่หยุดอยู่บ้านเป็นเรื่องท้าทาย หลายองค์กรมีหน่วยงานเฉพาะกิจ เข้าไปช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของพนักงาน ให้คำแนะนำประสานงานเมื่อเกิดปัญหา เปิดช่องทางให้ติดต่อกับบริษัทได้ตลอดเวลา การมีกิจกรรมต่อเนื่องเหล่านี้ ช่วยทำให้พนักงานรู้สึกผูกพัน สร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมงานให้แข็งแกร่ง การทำงานแม้ยากเย็นแสนสาหัส หากสนุก มองเห็นความสำเร็จ ก็พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขฝ่าฟันไปด้วยกัน

แม้เวลาปกติ ไม่มีโควิด การจัดกิจกรรมระหว่างพนักงานไม่ว่าเป็น กีฬาสี จัดแคมป์ สัมมนา อบรม หรืองานฉลองในโอกาสต่าง ๆ ปีใหม่ สงกรานต์ ล้วนเป็นสิ่งสร้างความผูกพันใจให้กับพนักงานที่ยากจะทดแทนด้วยเงินตรา

ปัจจัยสุดท้ายแต่สำคัญที่สุดโดยมีงานวิจัยหลายสำนักสนับสนุนว่า สาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้คนลาออกจากงานคือ เข้ากับเจ้านายไม่ได้ ถ้าทำงานกับนายแล้วสบายใจ นายเปิดโอกาสให้แสดงฝีมือ ได้เรียนรู้ ให้คำแนะนำ งานหนักแค่ไหนก็สู้ตาย แต่บอสที่เอาแต่ใจ เกรี้ยวกราด เห็นแก่ตัว ย่อมเป็นตัวเร่งให้พนักงานตัดสินใจตีจากได้ง่ายขึ้น ผู้บังคับบัญชาที่ดี จึงเป็นเกราะชั้นเยี่ยมที่ควรให้พนักงานสวมใส่แนบอก รับรองป้องกันการลาออกได้ทุกเมื่อ

ก่อนอภิมหาการลาออกในประเทศไทยจะเกิดขึ้น เจ้าของกิจการควรกลับมาทบทวนปัจจัยที่มีผลต่อการทำงาน นั่งคิด ประดิษฐ์เสื้อเกราะหลายชั้น ให้พนักงานสวมใส่ คุ้มครองให้ลูกจ้างปลอดภัยจากสงครามแย่งชิงตัวคนทำงานที่จะเกิดขึ้นในโลกยุคหลังโควิด

ผลตอบแทนที่เหมาะสม สภาพการทำงานที่ปลอดภัย บริษัทจัดกิจกรรมที่คอยห่วงใย ดูแลเอาใจใส่คนทำงาน และเจ้านายที่เข้าใจ ให้โอกาส มอบหมายงานที่ท้าทาย เป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันการลาออกที่มีประสิทธิภาพ

รักษาพนักงานเดิมที่ทรงคุณค่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการหาคนใหม่

ป้องกันก่อนสูญเสีย ดึงด้วยเงินไม่เหนียวแน่นเท่าดึงด้วยใจรัก