ธุรกิจใหม่ในโลก Metaverse
Metaverse เป็นเหมือนประตูที่จะเปิดโลกของเราทุกคนสู่มิติใหม่ของการใช้ชีวิตและการต่อยอดธุรกิจ
Metaverse ที่เราพูดถึงกันก่อนหน้านี้ จะไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป เมื่อเฟซบุ๊คออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อเปลี่ยนวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งสู่การเดินทางครั้งใหม่ในโลกเสมือน เป็นการตอกย้ำการเดินหน้าสู่โลก Metaverse อย่างเต็มตัว ซึ่งการปรับตัวครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อหลายๆ ภาคส่วน
ในบทความนี้ผมจึงขอพูดถึงการมาถึงของ Metaverse ว่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างโอกาสทางธุรกิจ การเงิน การใช้ชีวิต รวมถึงตลาดที่น่าจับตามอง และอาชีพที่สามารถต่อยอดและส่งเสริมโลกเสมือนนี้ให้เป็นจริงได้ในที่สุดเช่นไร
โลกของ Metaverse ที่ทุกคนจะสามารถเชื่อมต่อกันระหว่างแพลตฟอร์ม เพื่อไปพบเจอกันบนโลกเสมือน ทั้งการแบ่งปันสถานที่ บรรยากาศ และประสบการณ์ต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและโลกอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขอบเขต จะสร้างโอกาสเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจและการใช้ชีวิตได้อย่างน่าสนใจในหลากหลายมิติ
เช่น การจัดงานอีเว้นท์แบบออนไลน์และการท่องเที่ยว จะไม่ใช่เพียงแค่การเห็นกันผ่านกล้องในบรรยากาศแบบ 2D อีกต่อไป แต่ทุกคนจะสามารถเข้าไปสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงผ่านอวตารของตัวเอง เข้าถึงประสบการณ์ที่จับต้องได้จริงผ่านการสวมใส่แว่น VR (Virtual Reality) อุปกรณ์ที่จะพาทุกคนเข้าไปพบกันในโลกเสมือน
ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นใน ธุรกิจความบันเทิง ที่ศิลปินต่างชาติอย่าง Ariana Grande ได้มีการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงขึ้นแล้ว โดยมีผู้เข้าชมมากถึง 78 ล้านคน ถือเป็นจำนวนที่มากกว่าการจัดงานคอนเสิร์ตในสถานที่จริงที่สามารถทำได้
ส่วนของ ธุรกิจเกม ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดูได้จากเกมสุดฮิตอย่าง Fortnite ที่กลายเป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้เล่นมาพบกันเพื่อจัดงานอีเวนท์ นิทรรศการ และคอนเสิร์ต หรือเกม Roblox ที่ผู้เล่นไม่เพียงสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์หรือไอเท็มภายในเกม แต่รวมไปถึงเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน สินค้า และบริการอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้ในโลกจริง
ระบบเศรษฐกิจและธุรกิจการเงิน ก็จะเกิดการพลิกโฉมการบริการเพื่อตอบโจทย์ทุกการเชื่อมต่อแบบไร้ขอบเขต เงินดิจิทัลจะถูกใช้ในการจับจ่ายได้ทุกเมื่อ วงการศิลปะ อย่าง NFT ทรัพย์สินดิจิทัลที่กำลังเป็นที่สนใจของทั้งศิลปินและนักสะสมผลงาน จะเกิดการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นผ่านการจัดแสดงผลงาน NFT ในโลกเสมือนที่ไม่ต่างจากการจัดแสดงผลงานศิลปะในโลกจริง
ธุรกิจแบรนด์เนม ก็มีโอกาสผุดร้านของตัวเองขึ้นมาให้นักช้อปสามารถช้อปปิ้งในโลกเสมือนได้โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องไปยังสาขา สามารถทดลอง จับต้องสินค้า และได้รับคำแนะนำจากพนักงานขายผ่านอวตาร ในขณะเดียวกันก็จะมีการขายสินค้าเสมือนจริงในโลกออนไลน์เพื่อใช้งานผ่านสองโลกควบคู่กันไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงโลก Metaverse ยังต้องการอุปกรณ์ที่จะช่วยเชื่อมโลกเสมือนที่กล่าวมาทั้งหมด ซึ่งตลาดที่น่าจับตามอง คงเป็นผู้ผลิตและผู้พัฒนาแว่น VR หรือแว่นตาอัจฉริยะ (smart glass) รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ อย่างถุงมืออัจฉริยะ (haptic glove) ที่ใช้ในการเชื่อมต่อโลกจริงและโลกเสมือน
โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น คล่องตัว และเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้ได้มากที่สุด และอาชีพใหม่ที่จะเป็นที่ต้องการ อย่างโปรแกรมเมอร์ นักออกแบบสินค้าเสมือนจริง ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล สถาปนิกออกแบบโลกเสมือน หรือไกด์นำทางในโลกเสมือน ก็จะเป็นความท้าทายของคนรุ่นใหม่ในการเรียนรู้และฝึกฝนสกิลให้ตอบโจทย์อาชีพเหล่านี้
เป็นเรื่องยากที่เราจะปฏิเสธการเข้ามาของโลก Metaverse ที่เป็นเหมือนประตูที่จะเปิดโลกของเราทุกคนสู่มิติใหม่ของการใช้ชีวิต และการต่อยอดธุรกิจแห่งโลกอนาคตที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ หากใครมองหาโอกาสที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับธุรกิจของตัวเองได้ก่อน ย่อมได้เปรียบในการเป็นผู้นำในตลาด แล้วคุณล่ะ มองเห็นโอกาสอะไรในโลก Metaverse แล้วหรือยัง?