เมื่อขาดสภาพคล่องกรมธรรม์ประกันชีวิตช่วยคุณได้

เมื่อขาดสภาพคล่องกรมธรรม์ประกันชีวิตช่วยคุณได้

ถ้าพูดถึงการกู้ยืมเงิน หลาย ๆ คนคงนึกถึง สถาบันการเงินเช่น ธนาคาร เป็นลำดับแรก รองลงมาก็โรงรับจำนำ ซึ่งการกู้ยืมเหล่านี้จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือหาคนมาช่วยค้ำประกันให้

แต่บางคนที่ไม่มีทั้งหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกันก็จะหันหน้าไปพึ่งการกู้เงินนอกระบบและต้องยอมเสียดอกเบี้ยสุดโหดให้กับเจ้าหนี้ไปในที่สุด

 แต่สำหรับคนที่ทำประกันชีวิตไว้และกำลังตกอยู่ในสภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง เรามีทางออกมาแนะนำอีกหนึ่งวิธีค่ะ กรมธรรม์ประกันชีวิตที่คุณมีสามารถใช้กู้เงินได้ แต่ต้องเป็นกรมธรรม์ที่ยังมีผลบังคับและยังไม่ได้ใช้สิทธิใช้เงินสำเร็จหรือขยายเวลาไปแล้ว

ส่วนจะกู้ได้ในปีไหน และกู้ได้เท่าไรให้พิจารณาจากตารางมูลค่าเวนคืนในกรมธรรม์ประกันภัย โดยใช้สูตรคำนวณ ดังนี้

มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ = ทุนประกันชีวิต X จำนวนในตารางเวนคืน ณ สิ้นปีที่ต้องการ

ต่อจำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000 บาท (มีระบุไว้ด้านบนตารางมูลค่ากรมธรรม์)

ขอยกตัวอย่างการคำนวณหามูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ ดังนี้ นางสาว ก. ทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ 99/20 ทุนเอาประกันชีวิต 400,000 บาท นางสาว ก. จ่ายเบี้ยประกันไปแล้ว 6 ปี ต้องการกู้เงินจากกรมธรรม์ เบื้องต้นนางสาว ก. ต้องนำทุนประกันชีวิต 400,000 บาท คูณ 56 หาร 1,000 บาท = 22,400 บาท ในกรณีนางสาว ก. จะสามารถกู้เงินได้ร้อยละ 80 ของมูลค่าเวนคืน จึงเท่ากับกู้ได้ 17,920 บาท

  ซึ่งจำนวนเงินที่กู้ยืมได้ส่วนใหญ่จะไม่เกินร้อยละ 80 - 90 ของมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัย ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทรับประกันและแบบของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ส่วนอัตราดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินตามกรมธรรม์ บริษัทประกันชีวิตจะคิดดอกเบี้ยทบต้นในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยที่ใช้ในการคำนวณเบี้ยประกันภัยอีกประมาณ 2% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของแต่ละกรมธรรม์จะแตกต่างกันไป ผู้เอาประกันสามารถดูได้จากหน้าแรกของกรมธรรม์ประกันชีวิต ยกตัวอย่างบางกรมธรรม์จะระบุอัตราดอกเบี้ยที่ 4% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยของการกู้เงินกรมธรรม์จึงเท่ากับ 6% ต่อปีนั่นเอง

  สำหรับการจ่ายเงินคืนเงินกู้ก็ไม่ได้มีข้อบังคับเหมือนกับกู้เงินนอกระบบ ผู้เอาประกันภัยมีอิสระในการเลือกที่จะชำระคืนเงินกู้ จะผ่อนชำระเป็นรายงวดหรือถ้ามีเงินก้อนเพียงพอจะปิดทั้งหมดก็สามารถทำได้ทันที

 ส่วนขั้นตอนในการขอกู้เงินจากกรมธรรม์ก็ง่ายและรวดเร็วมาก เพียงแค่นำกรมธรรม์ฉบับจริงพร้อมสำเนาบัตรประชาชนไปติดต่อกับบริษัทประกันชีวิตที่ทำประกันภัยอยู่ โดยไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน บริษัทประกันภัยก็สามารถอนุมัติเงินกู้ให้กับผู้เอาประกันภัยได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งหลายบริษัทประยังกันชีวิตสามารถให้บริการผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยสามารถทำธุรกรรมได้ทุกแห่งทุกที่

รวมถึงการขอกู้กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Loan) เพื่อช่วยให้ลูกค้าของบริษัทใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวลใจ ได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปกรอกเอกสารที่สาขา ก็สามารถที่จะขอกู้เงินกรมธรรม์ผ่านออนไลน์ได้ทันทีตามแบบฉบับ New Normal โดยเข้าไปดูรายละเอียดที่หน้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทประกันภัย และกรอกรายละเอียดส่วนตัวเพื่อขอรับบริการ

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกู้เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตจะเป็นเสมือนเครื่องมือที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่อง แต่สิ่งสำคัญที่ผู้เอาประกันภัยควรคำนึงคือ ถ้าหากในอนาคตเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นก่อนที่ผู้เอาประกันภัยจะชำระหนี้ครบ ผลประโยชน์ตามกรมธรรม์นั้นจะต้องหักหนี้คงค้างก่อน เหลือเท่าไหร่ถึงจะจ่ายให้กับผู้รับผลประโยชน์ สำหรับกรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระหนี้จนทำให้มูลค่าเงินกู้และดอกเบี้ยค้างจ่ายสูงกว่ามูลค่าเงินสดที่เหลืออยู่ในขณะนั้น กรมธรรม์จะถูกปิดและสิ้นสุดการให้ความคุ้มครองทันที ฉะนั้นเมื่อใดที่ผู้เอาประกันภัยมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะนำกลับไปจ่ายคืน ขอให้รีบนำไปชำระหนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้หลักประกันชีวิตที่เตรียมไว้จะไม่สิ้นสุดไปอย่างน่าเสียดาย