โลกก่อนสังคมออนไลน์และจักรวาลนฤมิต | พสุ เดชะรินทร์
หลายๆ ผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่า สังคมมนุษย์กำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนที่จะเข้าสู่เมตาเวิร์ส (Metaverse) ซึ่งจะทำให้ทั้งวิถีในการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจเปลี่ยนไปจากอดีต
เมื่อนึกถึงอดีตที่ยังพอจำได้ก็มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของเทคโนโลยี ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งวิถีชีวิตและการทำธุรกิจมาก่อนแล้ว ตั้งแต่การมีอินเทอร์เน็ต ต่อด้วยการเข้าสู่ยุคของสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) และแอพต่างๆ
ประเด็นชวนคิดคือการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำรงชีวิตและการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง และ ถ้า Metaverse เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายจริงๆ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างไรอีกบ้างในอนาคต
ท่านผู้อ่านยังพอจำได้ถึงโลกก่อนมีสังคมออนไลน์และแอพต่างๆ ว่าในช่วงนั้นคนใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง?
ในอดีตเวลาว่างหรือพักผ่อนก็จะใช้ไปกับงานอดิเรก อ่านหนังสือ ดูทีวี ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นก็เกิดจากการพบเจอกัน การพูดคุยแบบได้พบเจอหน้า หรือ พูดคุยโทรศัพท์
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็ถูกสร้างมาจากการได้ใช้เวลาอยู่และทำกิจกรรมด้วยกัน ขณะเดียวกันภาพลักษณ์ของแต่ละคนก็จะมาจาก แต่งกาย บุคลิกภาพ การแสดงออก กริยาท่าทางวาจาที่ใช้
นอกจากนี้ในช่วงก่อนมีสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ต ธุรกิจก็จะใช้สื่อแบบดั้งเดิมทั้งโทรทัศน์ วิทยุ วารสาร หนังสือพิมพ์ รวมถึงป้ายโฆษณาต่างๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเมื่อลูกค้าประสงค์จะทดลองหรือซื้อสินค้า ลูกค้าก็จะต้องเดินทางไปตามร้านค้าที่จัดจำหน่ายเพื่อทดลองและซื้อสินค้าดังกล่าว
อย่างไรก็ดีเมื่อเข้าสู่ยุคของสังคมออนไลน์ (เช่นในปัจจุบันนี้) ทั้งวิถีชีวิตและการทำธุรกิจก็เปลี่ยนไปจากอดีต เวลาว่างจะหมดไปกับบรรดาสังคมออนไลน์และแอพต่างๆ บนหน้าจอมากขึ้น
หลายคนที่เคยเรียกตัวเองว่าเป็นหนอนหนังสือในอดีต ก็แทบจะไม่ได้หยิบจับหนังสือขึ้นอ่านอีกเลย เมื่อมีเวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง แทนที่จะพูดคุยสนทนากัน ก็ต่างคนต่างก้มหน้าอยู่กับจอมือถือของตนเอง ส่วนเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นก็ไปอยู่บนออนไลน์หมด
สังคมออนไลน์ทำให้เพื่อนฝูงและญาติมิตรที่ไม่ได้เจอกันเป็นสิบๆ ปีได้กลับมาพบเจอกันใหม่อีกครั้ง ทำให้สามารถติดตามชีวิตและความเป็นไปของคนอื่นได้ง่ายขึ้น
การพบเจอของคู่รักในยุคนี้ก็มาจากแอพหรือเพจต่างๆ แทนที่เริ่มต้นจากการนัดพบเจอกันเหมือนในอดีต แม้กระทั่งในยุคนี้พ่อแม่ลูกก็อวยพรวันเกิดกันผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนภาพลักษณ์ส่วนบุคคลนั้นก็สามารถสร้างให้เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ได้ตามที่ตนเองต้องการ
ปัจจุบันกลยุทธ์ของธุรกิจก็ต้องปรับไป ทั้งการมีตัวตนปรากฏอยู่บนสังคมออนไลน์ในช่องทางต่างๆ สังคมออนไลน์ได้กลายเป็นช่องทางที่ธุรกิจใช้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเมื่อลูกค้าประสงค์จะซื้อสินค้าก็เพียงแค่กดโทรศัพท์มือถือก็สำเร็จแล้ว
ทีนี้ลองมาจินตนาการดูว่า ถ้าจักรวาลนฤมิตหรือ Metaverse เกิดขึ้นและเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ คาดไว้ การใช้ชีวิตและการทำธุรกิจจะเปลี่ยนไปอย่างไรอีก
เริ่มจากเมื่อมีเวลาว่าง คนก็จะเข้าไปท่องเที่ยว เล่มเกม เลี้ยงสัตว์เลี้ยง หรือ ทำกิจกรรมในโลกเสมือนจริงกันมากขึ้น แทนที่จะเพียงแค่ไถดูฟีดต่างๆ เหมือนในปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ตั้งแต่การทำความรู้จัก การคบเป็นเพื่อนกัน หรือ แม้กระทั่งจีบกัน ก็จะเกิดขึ้นใน Metaverse การเรียนรู้และรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกเสมือนจริง และแต่ละคนก็สามารถที่จะเนรมิตตัวตนและสร้างภาพลักษณ์ให้ออกมาในรูป Avatar ได้ตามที่ต้องการ
ในด้านของธุรกิจนั้น ลูกค้าสามารถที่จะรู้จักแบรนด์สินค้าต่างๆ ผ่านทางโลกเสมือนจริง รวมถึงสามารถทดสอบ ทดลองสินค้าต่างๆ ได้อย่างอิสระและเสมือนจริง แม้กระทั่งการซื้อของต่างๆ ก็ยังสามารถทำได้ในโลกเสมือนจริงและด้วยเงินตราของโลกนั้นๆ
จะเห็นได้ว่าพัฒนาการของเทคโนโลยีในแต่ละยุคก็ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีวิตและการทำธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ดีใช่ว่าทุกคนจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองทั้งหมด
ในยุคเมตาเวิร์สเชื่อว่ายังมีคนรุ่นใหม่ที่ชอบอ่านหนังสือ ใช้เวลาพบเจอ พูดคุย ทำความรู้จักกับผู้อื่นแบบตัวเป็นๆ รวมถึงการเดินเข้าร้านค้าเพื่อไปทดลองและซื้อสินค้า.
คอลัมน์ : มองมุมใหม่
รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
[email protected]