ชะตากรรมปูตินหลังเริ่มสงคราม | เรือรบ เมืองมั่น
ขณะที่โลกกำลังเป็นห่วงในชะตากรรมของยูเครน ผมกลับจับตามองประธานาธิบดี Vladimir Putin มากกว่าจะเอาจะตัวรอดได้นานเท่าไหร่หลังจากที่เริ่มสงครามที่ไม่ชอบธรรมจนโดนต่อต้านจากทั่วโลกไปแล้วแบบนี้
เวลาที่เขียนบทความนี้สงครามในเคียฟและเมืองใหญ่อื่นๆ ยังคงรุนแรงและเชื่อว่าจะยังไม่สิ้นสุดลงง่าย ๆ เพราะชาวยูเครนสู้ยิบตา ต่อให้รัสเซียยึดครองยูเครนได้ ก็จะต้องเจอกับการต่อสู้บนถนน มุมตึกและใต้ดิน เหมือนที่เคยเจอในเชชเนียไปอีกนาน
แต่สถานการณ์ในวันที่โลกเปลี่ยน การต่อต้านปูตินหลากหลายรูปแบบที่ทรงพลัง ผสานกำลังและรวดเร็วมากอย่างยุคนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภายในมอสโคว์หรือเครมลินเอง ฝันสุดท้ายของชายชราถึง Greater Russia อาจไปไม่สุด และรัสเซียอาจมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกครั้ง
การพยายามทวงคืนสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแผ่นดินของรัสเซียกลับมา โดยปูตินในวันนี้นั้นเป็นสิ่งที่ชาติตะวันตกไม่ประหลาดใจเท่าใดนัก เพราะบุรุษเหล็กผู้นี้ถูกมองว่าเขาต้องทำอย่างนั้นมาตั้งแต่ที่ได้ครองอำนาจในรัสเซียเมื่อปลายศตวรรษก่อนแล้ว และเขาก็ดำเนินการมาโดยตลอด
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- ทำไม? “SWIFT” ถึงเป็นตัวการที่กดดันจน “รัสเซีย” อาจต้องถอยทัพ!
- “สเบอร์แบงก์” ของรัสเซีย ประกาศถอนตัวตลาดยุโรป หมดแรงต้านคนแห่ถอนเงิน
- รู้จัก Cluster Bomb อาวุธต้องห้าม “รัสเซีย” ใช้ถล่มยูเครน
- “สงครามรัสเซีย - ยูเครน” พิสูจน์ลัทธิมอนโร “สหรัฐ”
ม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงเพื่อนบ้านอดีตรัฐบริวาร ใช้กำปั้นเหล็กกับแคว้นต่าง ๆ ในประเทศ และท้าทายชาติตะวันตกในทุกด้าน แต่การข้ามเส้นของการอดกลั้นได้ด้วยการรุกรานทางทหารนั้นดันมาเกิดตอนที่เขาแก่แล้ว
สวนทางกับกระแสรักสันติภาพที่กำลังเบ่งบานผ่านทางโลกอินเทอร์เน็ต ไอเดียของเขาจึงไม่มีการตอบรับอย่างกว้างขวาง ขนาดจีนกับอินเดีย มิตรใกล้ชิดยังอ้อมแอ้ม งดออกเสียงในเวทีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเลย
ข้ออ้างที่ปูตินใช้เพื่อแสดงให้โลกยอมรับในความชอบธรรมของเขา ไม่สมเหตุสมผลในโลกปัจจุบัน เช่น การอ้างว่ายูเครนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้นจริงไม่หมด เคียฟอาจเป็นต้นกำเนิดอารยธรรมชาวรัสเมื่อศตวรรษที่ 10 และแคว้นยูเครนไม่เคยเป็นรัฐเอกราชเลย จนกระทั่งแยกตัวออกจากโซเวียตเมื่อปี 1991 นั้นจริง
แต่ชาวยูเครนที่มีภาษาและวัฒนธรรมของตนเองต้องตกเป็นเมืองขึ้นของหลายต่อหลายอาณาจักรไม่ใช่แค่จักรวรรดิรัสเซีย พวกคอมมิวนิสต์ยูเครนเท่านั้นที่พาแคว้นนี้ไปรวมกับโซเวียตเมื่อปี 1922 ชาวยูเครนปลดแอกออกจากโซเวียตด้วยคะแนนประชามติท่วมท้น 92.3 %
การที่ปูติดพยายามอ้างถึงภารกิจของรัสเซียต่อยูเครนก็ไม่ถูกต้องทางประวัติศาสตร์ รัสเซียไม่ใช่โซเวียตอีกแล้ว และแท้ที่จริงโซเวียตก็ล่มไปเพราะรัสเซียนั่นแหล่ะ โดย Boris Yeltsin ประธานาธิบดีคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซียปัจจุบันเป็นคนที่ไม่เอาโซเวียต เอาแต่แคว้นรัสเซียเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- "รัสเซีย" ลั่นสงครามโลกครั้งที่ 3 อาจเป็น "สงครามนิวเคลียร์"
- เปิดเหตุผล "ไทย" ตัดสินใจหนุนยูเอ็น ต้านรัสเซียบุกยูเครน
- มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินกระทบเศรษฐกิจรัสเซียอย่างไร
- ตั้งค่าหัว “วลาดิมีร์ ปูติน” เป็นตายได้หมด จ่ายจบ 1 ล้านดอลลาร์
โซเวียตจึงต้องล่มสลาย แต่ละแคว้นต้องแยกตัวออกทั้งที่บางแคว้นยังเตรียมตัวไม่ทัน เมื่อกลายเป็นประเทศ บางรัฐจึงต้องตกอยู่ใต้อำนาจผู้นำเผด็จการซึ่งก็สมประโยชน์กับเครมลิน แต่เมื่อผ่านไป 30 ปี คนรุ่นใหม่มีจำนวนมากและเข้มแข็งขึ้น กระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยก็เกิดขึ้นแม้แต่ในรัสเซีย
ไม่แน่ใจว่าปูตินเตรียมพร้อมรับมือการประท้วงสงครามในรัสเซียได้ขนาดไหน กระแสเรียกร้องประชาธิปไตยที่กำลังเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คนที่อยากเป็นประธานาธิบดีตลอดชีพกลัว เมื่อปีกลายเขาอาจสยบประชาชนจำนวนมหาศาลที่เดินขบวนสนับสนุนนาย Alexei Navalny ฝ่ายค้านคนสำคัญได้ แต่เขาจะเอาชนะได้ทุกคลื่นการชุมนุมล่ะหรือ
อาจมีผู้เห็นใจปูติน โดยเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มชมชอบอัตตาธิปไตยเช่นกัน ว่าปูตินถูกบีบจากชาติตะวันตกก่อนว่าจะรับยูเครนเข้าเป็นนาโต้แล้วจะจ่ออาวุธหนักเล็งเป้ารัสเซีย จึงต้องชิงโจมตียูเครนก่อน แต่คนส่วนใหญ่ในโลกตะวันตกมองว่าปูตินมโนไปเองถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ที่เกิดขึ้นเจ็บจริงตายจริงคือการบุกยูเครนของรัสเซียตั้งแต่ 24 ก.พ.65
ในสายตาของประเทศที่ทรงพลังทางเศรษฐกิจเหล่านี้ การใช้กำลังรุกรานเพื่อนบ้าน "ไม่ใช่" ข้ออ้างของการป้องกันตัว ประเทศเหล่านี้อาจไม่กล้าปะทะกับรัสเซียทางตรงด้วยกำลังทหาร แต่การประสานเสียงร่วมมือกันต่อต้านรัสเซียทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการคว่ำบาตรทางการค้าและการเงินจะทำให้การส่งกำลังบำรุงภายในรัสเซียมีปัญหา เช่นเดียวกับโซเวียตเมื่อปลายยุค
ขณะที่ปูตินหวังจะเห็นคนยูเครนออกมาโค่นล้มรัฐบาลยูเครน เขาก็อาจถูกคนในประเทศที่ประสบภาวะลำบากสาหัสทางเศรษฐกิจโค่นล้มระบอบกำปั้นเหล็กเช่นกัน โดยเฉพาะจากพวกคนรวยที่ต้องพึ่งพาระบบทุนนิยมในโลกตะวันตก
ต่อให้รัสเซียยึดยูเครนได้ ปูตินก็ไม่สามารถได้รับการยอมรับจากชาติตะวันตกและพันธมิตรอีกแล้ว รัสเซียไม่น่าที่จะมีมิตรมากพอที่ช่วยประคองสายป่านเศรษฐกิจรัสเซียได้ การบ่อนทำลายของชาติตะวันตกเพื่อมุ่งไปที่การเปลี่ยนตัวผู้นำในเครมลินได้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และหากปูตินจนตรอกถึงขั้นใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือกล้าบุกบอลติค เขาอาจจะจบเร็วกว่าที่คาด
ทางรอดของเขาไม่ใช่การประนีประนอมกับนาโต้ด้วยการคายยูเครนเพราะเป็นเรื่องที่ย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ควรเป็นการพยายามหาทางลงจากอำนาจและโลว์โปรไฟล์อย่างที่สุด ซึ่งเชื่อว่าปูตินก็ไม่เลือกทางนี้เหมือนกัน.