อยุธยา พลิกฟื้นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พร้อมด้วยคณะผู้วิจัยจากสถาบันอาศรมศิลป์ จัดกิจกรรม Business & Media FAM TRIP เยือนอยุธยา เมืองท่าแห่งอุษาคเนย์ นำงานวิจัยพลิกฟื้นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร
กิจกรรม Business & Media FAM TRIP “The Legendary Food Culture of Ayutthaya” วัฒนธรรมอาหารในตำนานศรีอโยธยาเมืองท่าแห่งอุษาคเนย์ แผ่นดินทองแห่งความรุ่งเรืองบนรากฐานพหุวัฒนธรรมต้นตำรับสยาม “วิเทศศาสตร์ โภชนศิลป์”
กิจกรรมเป็นผลจากการดำเนินโครงการวิจัย “การยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมอาหารอยุธยาเมืองท่าแห่งตะวันออก” ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
โครงการวิจัยดังกล่าว มีเป้าประสงค์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเที่ยวด้านวัฒนธรรมอาหารของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้เป็นที่รู้จัก และรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเรื่องอาหารการกิน เชื่อมโยงสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยนำอาหารไทยโบราณหาทานยากมาเป็นจุดขาย ผสมผสานกับการเรียนรู้เรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ ย้อนรอยระลึกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกรุงศรีอยุธยาในอดีต
ผ่านการดำเนินโครงการ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ โครงการการค้นหาต้นแบบวัฒนธรรมอาหารและพัฒนาสำรับอาหารอยุธยาเมืองท่าแห่งตะวันออก นำทีมโดย รศ. ดร.พรรณี สวนเพลง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ซึ่งลงพื้นที่ศึกษาภูมิวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอาหารอยุธยา ถอดรหัสภูมิปัญญาสำรับอาหารอยุธยา และพัฒนาสำรับอาหารกรรมวิธีโบราณดั้งเดิม 5 ชนิด
ประกอบด้วย ต้มยำน้ำข้น ทอดมันกุ้ง มัสมั่น ข้าวบุหรี่ (ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ) โดยไฮไลท์สำคัญที่จะต่อยอดส่งออกขาย พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของฝากชนิดใหม่ของพระนครศรีอยุธยา คือ “ขนมหินฝนทอง”
ขนมหินฝนทองเป็นขนมหวานหาทานยาก มีรสหวาน หอม ละมุนลิ้น คนโบราณนิยมพกติดตัวไปเวลาเดินทางไกลหรือเวลาออกรบ เพราะเก็บไว้รับประทานได้นาน 1-2 เดือน หน้าตาของขนมมีลักษณะคล้ายกับหินฝนทองที่คนโบราณใช้ทดสอบทองคำว่าเป็นทองแท้หรือไม่
ตามหลักฐานพบชื่อขนมชนิดนี้ในสมัยอยุธยา จากคำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม โดยกล่าวถึงการแห่เครื่องกัณฑ์จากบ้านมาธรรมศาลา ไว้ว่า
สั่งบ่าวไพร่ให้กรองของเครื่องกัณฑ์
เผือกมันของเรานั้นอักโข
อ้อยขาว อ้อยแดง แตงโม
ส้มโอ มะดูก ลูกมะไฟ
ชะมด กงเกวียน ข้าวเหนียวแดง
หินฝนทอง ครองแครง แตงลูกใหญ่
นอกศาลาข้าวของที่กองไว้
จัดให้เป็นลำดับอย่าซับซ้อน
ผลงานวิจัยนี้นับเป็นองค์ความรู้ที่โดดเด่นของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตทางด้านวัฒนธรรมอาหาร และนำมาใช้ประโยชน์ถ่ายทอดสู่ชุมชน ก่อให้เกิดผลลัพธ์ การสร้างงาน สร้างอาชีพของคนในชุมชน และรองรับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในยุควิถีชีวิตปกติใหม่
รวมถึงนำไปสู่การขยายผลและเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน และยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมาอาหารไทยสู่การเป็น ASEAN Gastronomy Region
เพื่อเผยแพร่ขนมโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและกำลังจะสูญหายให้เป็นที่รู้จัก คณะผู้วิจัยได้จัดกิจกรรมสาธิตการทำขนมหินฝนทอง
โดยเชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยวอาทิ บริษัท เดสทิเนชั่น เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อยุธยา โบ๊ท แอนด์ ทราเวล จำกัด บริษัท Green Wood Travel Blogger Page หมีเป็ดและนักท่องเที่ยวทั่วไป มาร่วมกิจกรรมการทำขนม
ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของ “การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารอยุธยาเมืองท่าแห่งตะวันออก” และนำกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารเสนอขายเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถนำไปสู่การสร้างกิจกรรมเพื่อรองรับการท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศได้
ขณะที่โครงการ “การถอดรหัสภูมิปัญญาวัฒนธรรมและออกแบบพื้นที่เกี่ยวเนื่องวัฒนธรรมอาหารอยุธยาเมืองท่าแห่งตะวันออกเพื่อยกระดับสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” นำทีมโดย อ.อภิรดี อานมณี จากสถาบันอาศรมศิลป์ ได้ลงพื้นที่ศึกษาร่องรอยลักษณะทางกาย ภูมิสังคม วิถีชีวิต ที่เชื่อมโยงกับการ “กิน” นำมาสู่การอนุรักษ์รูปแบบครัวโบราณ และพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมอาหาร รวมถึงส่งเสริมบรรยากาศให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจถึงคุณค่าและกิจกรรมสร้างสรรค์
ขณะที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยายสามารถนำองค์ความรู้ด้านงานออกแบบไปประยุกต์ใช้ในการตกแต่งบรรยากาศโรงแรม ร้านอาหาร เพื่อสะท้อนความเป็นความเป็นไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาได้อีกด้วย
คณะวิจัยได้จัดการทดสอบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมอาหาร โดยคุณอภิวัฒน์ ทับทิมโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา นำทีมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและตัวแทนบริษัทนำเที่ยวชั้น 10 แห่งร่วมลงพื้นที่ เพื่อจัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติบนรูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่
โดยคัดเลือกกิจกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นเชื่อมโยงกับเรื่องราวเชิงวัฒนธรรมอาหาร อาทิ กิจกรรมเดินจ่ายตลาด ณ ตลาดหัวรอ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา การเยี่ยมชมครัวโบราณบ้านเกาะเรียนและเลือกซื้อขนมตระกูลทองบ้านป้ามะลิ การรับประทานอาหารโบราณกรุงศรีอยุธยาที่ร้านครัวท่าหลวง การทำขนมหินฝนทอง และปิดท้ายด้วยการล่องเรือชมความงามรอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา
การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมอาหารอยุธยาเมืองท่าแห่งตะวันออก มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารให้กับนักท่องเที่ยว และการสร้าง “คุณค่า” โดยผนวกกับเรื่องราวที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจากอดีต
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร จึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการถ่ายทอดประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่นผ่านอาหาร แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างงานและกระจายรายได้ให้คนในท้องถิ่น รวมถึงสร้างเข้มแข็งของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม.