ทำความรู้จัก VRSteel แพลตฟอร์มพลิกธุรกิจเหล็กสู่อีคอมเมิร์ซ
พาไปทำความรู้จัก VRSteel แพลตฟอร์มซื้อขายเหล็กออนไลน์ ตัวช่วยคำนวณราคาที่ยุติธรรมให้กับผู้ซื้อแบบเรียลไทม์ พลิกรูปแบบการขายเหล็กที่ง่าย และสะดวกขึ้น
ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า "เทคโนโลยีดิสรัปชัน" ที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างให้กับหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากกว่า หลายองค์กรจึงเริ่มมีการขยับและพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้บริษัทก้าวทันเทรนด์ยุคใหม่
เช่นเดียวกับ ธุรกิจขายเหล็ก ซึ่ง บริษัท แวนเทจ เรด สตีล เล็งเห็นถึงโอกาสในการพาธุรกิจเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับการขายเหล็กสำหรับงานก่อสร้างเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
นายพีรพล กิ่งพุทธพงษ์ รองประธานกรรมการ บริษัท แวนเทจ เรด สตีล จำกัด กล่าวว่า เหล็กจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ที่มักนำมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตสินค้าอื่นๆ ตั้งแต่ยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสิ่งก่อสร้าง บ้านและอาคาร ซึ่งราคาสินค้าประเภทนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสภาวะของตลาดจากอุปสงค์และอุปทาน นโยบายเศรษฐกิจ แม้แต่สภาพอากาศ ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ทำให้บริษัทฯ เข้าใจถึงปัญหาของผู้ซื้อที่ต้องเผชิญกับราคาเหล็กผันผวน จึงได้มีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ชื่อว่า "vrsteel" สำหรับการซื้อขายเหล็กสำหรับงานก่อสร้างบนโลกออนไลน์ที่จะคำนวณราคาที่ยุติธรรมให้กับผู้ซื้อ รวมทั้งสร้างความสะดวกในด้านการบริหารจัดการเหมือนกับการซื้อขายสินค้าประเภทอื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซ
อย่างไรก็ตาม vrsteel ต่างจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ในหลายด้าน ได้แก่ ระบบการตรวจสอบราคาเหล็กแบบเรียลไทม์ ที่เรียกว่า ระบบ Dynamic Price โดยมีการนำข้อมูลจากคำสั่งซื้อ อาทิ ปริมาณในการซื้อ ความหลากหลายของประเภทสินค้า และจำนวนครั้งในการซื้อ มาคำนวณเป็น "ราคาเฉพาะคุณ" ซึ่งช่วยลดขั้นตอนในการต่อรองราคา ทั้งยังให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกด้วยการเก็บประวัติการซื้อ การสะสมแต้มเพื่อแลกส่วนลด แลกของพรีเมี่ยม รวมถึงการแลกเป็นเงินสด
นอกจากนี้ การบริการของแพลตฟอร์มจะยังคงเป็นรูปแบบการสื่อสารโดยตรงกับพนักงานขาย ในส่วนของการสื่อสารการให้ข้อมูลเชิงลึก และการเจรจาต่อรอง เนื่องจากมูลค่าการ ซื้อขายเหล็ก มีราคาสูง เฉลี่ยราว 2-3 แสนบาทต่อครั้ง การได้ติดต่อกับพนักงานขายโดยตรงจึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ
ทั้งนี้ ระบบ Dynamic Price มีการเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 โดยมีจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกราว 35,000 ราย ทำให้บริษัทฯ เตรียมขยายทีมไอทีเพิ่มศักยภาพในการบริการโดยพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่มีฟีเจอร์สำคัญ อาทิ การเก็บประวัติการสืบค้นราคา เอกสารทางบัญชีและประวัติการซื้อขาย เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับแผนการเติบโตต่อจากนี้ บริษัทฯ มีความตั้งใจจะยกระดับการบริการลูกค้าในประเทศด้วยการหาพันธมิตรและคู่ค้าที่จะมาช่วยขยายขอบข่ายการบริการลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งเรียกโปรแกรมนี้ว่า "Brother & Partner" โดยจะมีการเปิดรับสมัครในปีหน้า
สำหรับคนที่สนใจธุรกิจซื้อขายเหล็กออนไลน์ สามารถเข้าไปชมรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม โดย คลิกที่นี่