'อรุณ พลัส' บุกตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้า วางระบบ Ecosystem เต็มรูปแบบ

นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการเอไอออเนกซ์ และกรรมการผู้จัดการอรุณ พลัส กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ขับเคลื่อนนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ครบวงจร เพื่อผลักดันประเทศสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ ตามวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond โดย เอไอออเนกซ์ (AIONEX) บริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส (บริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100%) กับ KYMCO Group 

"ประเทศไทยมีผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อเทียบสัดส่วนครัวเรือนในประเทศ และมีจักรยานยนต์สะสมในประเทศ 22 ล้านคัน สะท้อนให้เห็นความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้งาน ซึ่ง จักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมพลังงานใหม่ที่ส่งเสริมการขับขี่ในยุคปัจจุบัน และจะสร้างความแตกต่างให้ตลาดจักรยานยนต์ได้"

KYMCO Group เป็นแบรนด์ผู้ผลิตจักรยานยนต์ระดับโลก ที่มีความรู้ในนวัตกรรมออกแบบจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ขับขี่ไทยและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ KYMCO มีความเป็น State of the art ที่โดดเด่น เพราะมีพื้นฐานการออกแบบมาจากรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป จึงสามารถให้บริการบำรุงรักษารถได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านเครือข่ายจุดซ่อมบำรุงของกลุ่ม ปตท. และพันธมิตร

KYMCO เป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์ในระดับสากลจากไต้หวันที่มีประสบการณ์ในธุรกิจจักรยานยนต์มากกว่า 60 ปี และมีผลิตภัณฑ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม แนวคิดของการริเริ่มพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ KYMCO คือเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึง พลังงานสะอาด ได้ในทุกวันของทุกชีวิต โดยมีแกนดำเนินงานหลักอยู่ 3 แกน คือ Distinction Pride และ Persistence

1. Distinction เน้นความเลิศล้ำทุกด้าน ไม่เพียงแค่แตกต่างจากสมรรถนะของแบรนด์อื่นแต่ยังเหนือกว่า เช่น รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ KYMCO ทุกคัน มีพื้นที่ภายใต้เบาะรองนั่ง สามารถบรรจุของ นอกเหนือจากการจัดเก็บแบตเตอรี่ นอกจากนี้การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ KYMCO lonex ยังสะดวกและใช้ระยะเวลาสลับแบตเตอรี่แค่เพียง 15 วินาที
2. Pride KYMCO ต้องการให้ผู้ขับขี่รู้สึกภาคภูมิใจการเป็นเจ้าของรถยี่ห้อ KYMCO 
3. Persistence ยืนหยัดที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต

นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO มีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่ 0.8 กิโลวัตต์ ถึง 8.3 กิโลวัตต์ จึงสามารถสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการขับขี่และการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้ไม่ยาก และยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป พร้อมมีบริการหลังการขายเพิ่มความอุ่นใจให้ทุกการเดินทาง

ขณะที่ เอไอออเนกซ์ (AIONEX) เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ และสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Ionex (Ionex Energy Station) ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ โดย Ionex Battery Swapping Platform เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ยี่ห้อรถจักรยานยนต์ค่ายต่างๆ เข้ามาใช้สถานีสลับแบตเตอรี่ได้ในอนาคต

AIONEX มีแผนติดตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า Ionex จำนวน 300 สถานี ภายในปี 2568 ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station เพื่อผู้ขับขี่จะได้รับบริการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ และใช้เวลาสลับแบตเตอรี่ไม่กี่วินาที ด้วย Ionex Smart Application ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ค้นหา และใช้งานสถานีสลับแบตเตอรี่ได้ง่ายและรวดเร็ว ผ่านการเชื่อมโยงบน AI Cloud Data ให้ข้อมูลการขับขี่ที่เฉพาะเจาะจงรายบุคคล เช่น ระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงจากการใช้รถไฟฟ้า หาตำแหน่งตู้สลับแบตเตอรี่และแสดงระดับแบตเตอรี่ที่อยู่ในแต่ละตู้ แสดงระดับแบตเตอรี่คงเหลือและระยะทางคงเหลือของรถจักรยานยนต์ แสดง Location ของตัวรถ รวมถึงการควบคุมการเปิดปิดรถเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ในปี 2024 AIONEX มีแผนวางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น โดยแต่ละรุ่นมีสมรรถนะและฟังก์ชันการใช้งานต่างกันตอบโจทย์คนละกลุ่มเป้าหมาย และรุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายคือ รุ่น KYMCO S7 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2567 และเบื้องต้นแนะนำ 2 รุ่นที่เปิดตัวในไทย S7 และ i-One Fly 

ทั้งนี้ AIONEX และ KYMCO ได้ศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่ใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับให้ไทยมีศักยภาพและองค์ความรู้ในระดับสากล โดยเน้นการเลือกใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ผลิตโดยผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ จักรยานยนต์ไฟฟ้า ให้มีความมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพที่ทัดเทียมในระดับสากล 

สิ่งเหล่านี้ คือความตั้งใจของ อรุณ พลัส และ KYMCO Group ที่มุ่งเป้าผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต