'กรุงศรี คอนซูมเมอร์' ปรับกลยุทธ์เสริมแกร่ง รุกพลิกโฉม 'บัตรเครดิต'

แม้ปัจจุบันปัญหา หนี้ครัวเรือน จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้เติบโตได้ค่อนข้างช้า แต่ทว่า ธุรกิจบัตรเครดิต ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบัตรเครดิตถือเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คนทั่วโลกนิยม บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในการให้บริการมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้นำแบรนด์บัตรเครดิตที่แข็งแกร่ง เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส มีการพัฒนานวัตกรรม รวมถึงกลยุทธ์เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุด

อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สัมภาษณ์กับ กรุงเทพธุรกิจ ว่า ในปีนี้ แม้เราจะต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ แต่ในมิติของการเติบโตธุรกิจของเรายังคงเติบโตต่อเนื่อง สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีหน้าบริษัทเตรียมปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อของเราให้มีความแข็งแกร่งในแบรนด์มากขึ้น ให้เกิดความชัดเจนกับกลุ่มเป้าหมายตรงใจผู้บริโภคของแต่ละบัตรยิ่งขึ้น และยังเสริมความแกร่งในการบริการอีกด้วย

"บริษัทฯ เตรียมพัฒนาบัตรเครดิตและสินเชื่อของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์ของแต่ละบัตรให้เกิดความชัดเจนกับกลุ่มเป้าหมาย ตรงใจผู้บริโภคของแต่ละบัตรยิ่งขึ้น และเสริมความแกร่งในการบริการ" อธิศ กล่าว 

"บริษัทฯ เตรียมจะพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์ในแต่ละบัตร ไม่ว่าจะเป็น บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ซึ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระและสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต กรุงศรี หรือบัตรโคแบรนด์ อย่างบัตรเครดิตโลตัส หรือบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้แต่งตั้งให้บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ต่อเนื่องไปอีก 8 ปี ตั้งแต่ปี 2568-2575 โดยทุกแบรนด์จะมุ่งพัฒนาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาวะตลาดให้เข้าถึงผู้ใช้ บัตรเครดิต ในแต่ละประเภทได้อย่างตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งนี้อาจจะมีการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ หรือปรับสิทธิประโยชน์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนดำเนินการ" อธิศ กล่าว

ขณะที่ด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ และการให้บริการลูกค้า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ถือเป็น Best in Class จากรางวัลมากมายในด้านการให้บริการ ปัจจุบันกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีการพัฒนา Customer Service โดยการลงทุนด้าน AI ที่มีการพัฒนา Chatbot ในการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าค่อนข้างมาก รวมถึงทุกช่องทางที่ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการให้บริการทางโทรศัพท์ ซึ่งจะมี Chatbot รองรับหมด เพื่อให้ทันกับยุคสมัยและตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ UCHOOSE ถือเป็นหนึ่งแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ความสำคัญค่อนข้างมากในการพัฒนาเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย

"เราทุ่มลงทุนค่อนข้างเยอะในการให้บริการลูกค้า โดยที่ผ่านเราได้ทุ่มทั้งแรงกาย และแรงใจในการพัฒนาออกมาให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการมากที่สุด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีสมาชิกบัตรลงทะเบียนใช้งานแอปฯ ประมาณ 80%" อธิศ กล่าว

โดยคาดว่าในปี 2567 ภาพรวมของธุรกิจของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นยอดบัญชีลูกค้าใหม่ หรือยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร หรือยอดสินเชื่อคงค้าง ซึ่งยอดจากการใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิต คาดว่าจะเติบโตที่ประมาณ 393,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ยอดบัญชีลูกค้าใหม่ประมาณ 617,000 บัญชี หรือโตเพิ่มขึ้น 10% ด้านสินเชื่อคงค้างคาดอยู่ที่ประมาณ 151,000 ล้านบาท หรือโตเพิ่มขึ้น 2% และยอดสินเชื่อใหม่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท หรือโตเพิ่มขึ้น 9% ขณะที่การบริหารความเสี่ยงยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นบวกกับทางการมีการปรับยอดใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจากเดิม 5% ขึ้นมาเป็น 8% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อการผิดนัดค้างชำระมากขึ้น

สำหรับเทรนด์ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ของการใช้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างเนื่อง แต่อาจจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปตามยุคสมัย เพียงแต่ในอนาคตบัตรเครดิตอาจจะพัฒนาไปเป็น Payment Solution ตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในเรื่องการชำระเงินที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง 

สุดท้าย "อธิศ" กล่าวว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เราอยู่ในธุรกิจมานาน เราผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง และเรายังคงเป็นผู้นำใน ธุรกิจบัตรเครดิต เพราะเรามีความเชี่ยวชาญ และมีโนว์ฮาวที่สามารถขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้