RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ 'ผู้สูงอายุ' ไม่ควรมองข้าม

RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ 'ผู้สูงอายุ' ไม่ควรมองข้าม

RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งมักพบในเด็กเล็กและระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว รูปแบบการระบาดอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ พฤติกรรมของมนุษย์ และการกลายพันธุ์ของไวรัส โรค RSV ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็ก แต่ยังเป็นโรคที่ผู้สูงอายุควรระวังด้วย

พญ.ปาริชาติ เมืองไทย แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ อธิบายว่า RSV มักพบในเด็ก แต่ผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงสูง เนื่องจาก ระบบภูมิคุ้มกัน ที่ลดลงตามอายุ ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว นอกจากนี้ โรคประจำตัวเรื้อรังยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การติดเชื้อไวรัสรุนแรงขึ้น อาการของ RSV ในผู้สูงอายุ อาจคล้ายหวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล แต่ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย และปอดอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจึงจำเป็น โดยการวินิจฉัยสามารถทำได้จากการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเสมหะหรือเลือด การตรวจพบและจัดการอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

นพ.ธนา ปฏิมารัตนานันท์ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ กล่าวเสริมว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการติด เชื้อไวรัส RSV นั้นมีหลายประการ เช่น การที่อายุมากขึ้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง รวมถึงโรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคปอด โรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต โรคตับ และโรคเลือด สามารถลดประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันได้ นอกจากนี้ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อีกด้วย การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือการอยู่ในสถานที่ที่มีการระบาดของโรคก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ \'ผู้สูงอายุ\' ไม่ควรมองข้าม

ปัจจุบันยังไม่มีตัวยาต้าน ไวรัส RSV โดยเฉพาะ การรักษาจึงเน้นไปที่การบรรเทาอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก และการดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนเพียงพอ เช่นเดียวกับกรณีของคุณยายวัย 75 ปีที่มีโรคปอดเรื้อรัง ติดเชื้อ RSV ทำให้หายใจลำบากและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงกรณีของคุณลุงวัย 80 ปีที่มีอาการ RSV รุนแรงจนเกิดภาวะปอดอักเสบและเสียชีวิต การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สวมหน้ากากอนามัย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และฉีดวัคซีนป้องกันโรค RSV” นพ.ธนา กล่าว

วัคซีนป้องกันโรค RSV ในผู้สูงอายุ

การฉีด วัคซีนป้องกันโรค RSV เพียงเข็มเดียวช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันและมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัส RSV ได้อย่างน้อย 2 ปี ควรฉีดสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และสำหรับผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 50 ปี 

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ช่วยป้องกันโรค RSV ได้ไหม?

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ป้องกันการติดเชื้อ RSV โดยตรง อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังมีความสำคัญ เนื่องจากช่วยลดภาวะของระบบทางเดินหายใจและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้ออื่นๆ 

การดูแลสุขภาพของ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุดควรติดตามข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรได้

RSV โรคยอดฮิตในเด็กเล็กที่ \'ผู้สูงอายุ\' ไม่ควรมองข้าม

หมายเหตุ : ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น บทความนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์สำหรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล