'มูลนิธิโครงการหลวง' เตรียมจัดงาน 'โครงการหลวง 54' วันที่ 4-14 ส.ค. 66 ที่เซ็นทรัลเวิลด์
"มูลนิธิโครงการหลวง" เตรียมคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียมจากยอดดอยสู่เซ็นทรัลเวิลด์ ในงาน "โครงการหลวง 54" ภายใต้แนวคิด "ไออุ่นจากขุนเขา เรื่องเล่าสู่ใจกลางเมือง" ระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคม 2566
มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แถลงข่าวจัดงาน โครงการหลวง 54 ภายใต้แนวคิด "ไออุ่นจากขุนเขา เรื่องเล่าสู่ใจกลางเมือง" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษา 91 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2566
โดยภายในงานได้เนรมิตพื้นที่จำหน่ายผลิตผลผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม ผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกโดยชาวเขาบนพื้นที่สูง สินค้าหัตถกรรม อาหารเมนูพิเศษจากวัตถุดิบคุณภาพ ผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ และดอยคำ จำลองบรรยากาศทุ่งดอกไม้นานาพรรณมาไว้ในศูนย์การค้า พร้อมนิทรรศการที่ให้สาระและความรู้ต่างๆ มากมาย ระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคม 2566 รวม 11 วัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2512 ที่ประชาชนชาวไทยได้รับพระราชทาน โครงการหลวง จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือมาโดยลำดับ ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนคือ พื้นที่ฝิ่นที่สำรวจพบในปี 2513 สูงถึง 179 ตร.กม. ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยพืชพรรณเขตหนาวที่เกิดจากการวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวงมากกว่า 280 ชนิด และพืชพรรณเหล่านี้พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย เป็นอาชีพทางเลือกใหม่ของประชาชนบนพื้นที่สูง จนมาถึงในปลายปี 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา และต่อยอดงานของมูลนิธิโครงการหลวงให้เกิดประโยชน์แก่ปวงประชาทุกหมู่เหล่าอย่างยั่งยืน
"โครงการหลวงได้สนองในพระราชปณิธานโดยการสืบสานแนวทางการค้นคว้าวิจัยพืชใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี รักษา และฟื้นฟูระบบนิเวศบนพื้นที่สูง ซึ่งในปีนี้มีเรื่องของประมงบนพื้นที่สูง การเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน ซึ่งเป็นที่มาของคาร์เวียคุณภาพในโครงการหลวง ที่นำมาจัดแสดงและจำหน่ายในงานด้วย โดยการดำเนินการของมูลนิธิโครงการหลวงปัจจุบัน นับเป็นปีที่ 54 ในการสร้างประโยชน์ต่อทั้งชาวเขา ชาวเรา และชาวโลก"
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายสนับสนุนจัดงานฯ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งแรกของไทย ที่เปิดสอนหลักสูตรทางด้านการเกษตร พร้อมจัดตั้งวิทยาเขตเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาค โดยจัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นในหลายจังหวัด เพื่อดำเนินการวิจัยในศาสตร์วิชาต่างๆ และอำนวยประโยชน์แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติ โดยมหาวิทยาลัยได้สนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง มาตั้งแต่เริ่มจัดตั้ง โดยคณาจารย์จากคณะวนศาสตร์และคณะเกษตรได้อาสาสมัครทำงานถวายในงานวิจัยและพัฒนาบนพื้นที่สูง จนถึงปัจจุบัน
ดร.ดำรงค์ กล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนภารกิจของโครงการหลวงดังเช่นทุกปี โดยมหาวิทยาลัยได้เตรียมพร้อมทั้งด้านสรรพกำลังเจ้าหน้าที่และนิสิตปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการจัดงานตลอดทั้ง 11 วัน ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการสาธิตประกอบอาหารโดยใช้ผลผลิตจากโครงการหลวง ได้แก่ ปอเปี๊ยะเห็ดนางนวล Sweet Corn Tart ชาเขียวขิงชงดื่ม คุกกี้ธัญพืชและควินัว เครื่องดื่มธัญพืช ข้าวมันตำเพลิน ไดฟูกุชาเขียวมันม่วง เกี๊ยวซ่าผักรวมลุยสวน เบอร์เกอร์ข้าวกล้องควินัวลาบเห็ดแซ่บ ข้าวเฮงาะ (เฮาะ) มิลเฟยครีมเสาวรส แร็พแอนด์โรลอะโวคาโดไก่ฉีก เอแคลร์ครีมเสาวรส บะหมี่ผัก (เบญจรงค์ 5 สี) หมูส้มเมือง เมนู plant based จากเห็ดโครงการหลวง "Plant B gan" ผลิตภัณฑ์หมูปิ้ง plant based จากเห็ดโครงการหลวง หมักเซเลอรี่วีเเกน เค้กควินัว และเสาวรสคัสตาร์ดพาย
นอกจากนี้ยังกิจกรรมการแสดงบนเวทีของนิสิตชมรมต่างๆ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แก่ KU band ดนตรีไทย นิสิตอีสาน เชียร์และแปรอักษร โขนละคอน นาฏศิลป์ไทย วง KUS Symphony Orchestra จาก โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ชมรมส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมภาคเหนือ และวงดนตรีรวมดาวกระจุย
นายจิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัล หัวหินบีช รีสอร์ท จำกัด กล่าวว่า การจัดงาน "โครงการหลวง 54" มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษา 91 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2566 พร้อมส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยบนพื้นที่สูงและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กร "The Place Making for Sustainable Future" ที่ต้องการให้พื้นที่ของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วประเทศ เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับทุกคน รวมทั้งส่งเสริม Local Wealth เชื่อมโยงท้องถิ่นเข้ากับธุรกิจเป็น The Ecosystem for All ที่แข็งแกร่ง สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและอนาคตที่ดีให้กับผู้คน สังคม และโลกของเรา
"งานดังกล่าวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 36 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานประจำปีครั้งยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอย โดยในปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ได้สนับสนุนพื้นที่ทั่วทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ในการจัดงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างผลิตภัณฑ์คุณภาพฝีมือเกษตรกรไทย และผู้บริโภคได้มีโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพโดยตรง ถือเป็นงานสำคัญแห่งปีที่ได้กระแสตอบรับจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม โดยเซ็นทรัลพัฒนาพร้อมใช้พื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลในการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ รวมถึงประชาสัมพันธ์งานโครงการหลวงสู่สายตาประชาชน และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก"
พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน "โครงการหลวง 54" กล่าวว่า มูลนิธิโครงการหลวง ได้ดำเนินการตามหลักการพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาตลอดรัชสมัย เป็นเวลากว่า 47 ปี โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นพื้นที่แห่งแรก และขยายโครงการต่อมาอีก 38 แห่ง ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือ ภายใต้วัตถุประสงค์ที่สรุปเป็นคำพูดสั้นๆ ที่พวกเรามักได้ยินอยู่เสมอคือ มูลนิธิโครงการหลวง ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก กล่าวคือ ช่วยชาวเขาเพื่อมนุษยธรรม ช่วยชาวเราโดยการลดการทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง และช่วยชาวโลกโดยการลดการปลูกฝิ่น โครงการหลวงดำเนินงานตามแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาด้วยหลักปรัชญาของเศษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างสมดุลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเป็นความต้องการของชุมชน ช่วยให้เขาช่วยตนเองได้ เป็นแนวการพัฒนาทางเลือกบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน หรือ AD ซึ่งเรียกว่า โครงการหลวงโมเดล มีงานที่ต้องปฏิบัติที่สำคัญอยู่ 3 งานคือ งานวิจัย งานพัฒนา และงานตลาด แนวทางของโครงการหลวงนี้ได้รับการยอมรับ โดยองค์การสหประชาชาติได้แนะนำแก่ประเทศต่างๆ ให้นำไปประยุกต์ใช้ เนื่องจากสอดรับกับการบรรลุสู่เป้าหมาย 17 ประการ ของ UN-SDGs
พลเอก กัมปนาท กล่าวต่อว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จขึ้นครองราชย์ในปี 2559 ทรงดำรงตำแหน่งองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง และพระราชทานพระบรมราโชบาย สืบสาน รักษา และต่อยอดงานของโครงการหลวงให้มีความต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบนพื้นที่สูง ประชาชนไทย และประเทศชาติโดยรวม ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ให้สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ เพื่อเป็นศูนย์รวมการวิจัย พัฒนา และเป็นศูนย์กลางในการกระจายผลิตผลและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรที่มูลนิธิโครงการหลวงไปส่งเสริม และอีกประการสำคัญคือ ทรงรับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก เป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งแรกในรัชสมัย ทำให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แบบก้าวกระโดด ปัจจุบันทิศทางการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ยังคงยึดถือแนวทางพระราชทานของในหลวงทั้ง 2 รัชกาล ด้วยรูปแบบโครงการหลวงโมเดล ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 54 ปีที่ผ่านมา ผลงานเชิงประจักษ์ได้นำมาจัดแสดง และจัดกิจกรรมภายในงาน โครงการหลวง 54 พร้อมนำผลิตผลและผลิตภัณฑ์ใหม่จากการวิจัยมาแนะนำและจำหน่ายในงาน ได้แก่ เมล่อนสีทอง มะเขือเทศเชอร์รีเหลืองหวาน ข้าวโพดหวานสองสี ผลิตภัณฑ์ชาผู่เอ๋อ ชาสกัดเย็นพร้อมดื่ม (Cold Brew Tea) กาแฟสกัดเย็นพร้อมดื่ม (Cold Brew Coffee) ชาเขียวอบข้าวกล้องคั่ว ชาเขียวอบคีนัวคั่ว ชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช "ฟีโรด้วงหมัดผัก" และยังมีผลิตภัณฑ์พิเศษที่จะแนะนำแก่ผู้บริโภค ได้แก่ คาร์เวียร์ วานิลลา น้ำผึ้งในสวนกาแฟ เป็นต้น
สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงกิจกรรมในงาน ได้แบ่งเป็นโซนต่างๆ รวม 6 โซน ดังนี้
- เวทีกิจกรรมและนิทรรศการ บริเวณ ชั้น 1 โซนเซ็นทรัลคอร์ท เป็นจุดแสดงนิทรรศการผลสำเร็จของมูลนิธิโครงการหลวง ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ชาโครงการหลวง และดื่มด่ำกับ Royal Project Afternoon Tea ที่นำเมนูพิเศษจากร้านครัวโครงการหลวง อาทิ เค้กช็อกโกแลตคีนัว เค้กหม้อแกงมันม่วง เค้กเสาวรส เค้กเคล เรดเวลเวท ราสพ์เบอร์รีครีม พลับหมาด น้ำเสาวรสน้ำผึ้ง ชาสมุนไพรสด 7 ชนิด ม็อกเทลชากับผลไม้โครงการหลวง และเมนูจาก ร้านสวนกุหลาบหลวง โครงการหลวงทุ่งเริง อาทิ สโคนและแยมสตรอว์เบอร์รีกุหลาบ สาคูคีนัวน้ำกะทิ คุกกี้กุหลาบงาหอม ไดฟูกุไส้แยมมะม่วงเสาวรส ไดฟูกุไส้หมูคีนัว ทาร์ตฟักทองญี่ปุ่น เค้กคีนัวมันเทศญี่ปุ่น พร้อมเครื่องดื่มอีกมากมาย
- Royal Project Marche ชั้น 1 โซนอีเดน เป็นโซนซูเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายผัก ผลไม้สด ไม้ดอก ไม้กระถาง และผลิตภัณฑ์แปรรูปตราโครงการหลวง พร้อมจุดชมนิทรรศการประมงบนพื้นที่สูง ที่มาของคาร์เวียร์โครงการหลวงคุณภาพระดับพรีเมียมและนิทรรศการชีวภัณฑ์
- Royal Project Ice Cream Parlour ชั้น 1 โซนดาซเซิล พบกับไอศกรีมอะโวคาโด และไอศกรีม ณภาฯ กับหลากหลายรสชาติที่ต้องลิ้มลอง อาทิ ไอศกรีมอะโวคาโดผสมเนื้ออะโวคาโด ไอศกรีมอะโวคาโดวานิลลา ไอศกรีมกะทิอัญชัญมะพร้าวน้ำหอม ไอศกรีมช็อกโกแลต ไอศกรีมรสชาไทย ไอศกรีมชาเขียวมัทฉะ และไอศกรีมมันม่วง
- Royal Project Kitchen ชั้น 2 โซนอีเดน รังสรรค์เมนูสุดพิเศษจากยอดดอยสู่ใจกลางเมือง มีเมนูใหม่ที่เป็นไฮไลต์จากร้านต่างๆ อาทิ ร้านครัวโครงการหลวง ได้แก่ เมนูปลาเทราต์นึ่งซีอิ้ว ปลาเทราต์นึ่งมะนาว ปลาเทราต์รมควันลุยสวน ปลาสเตอร์เจี้ยนนึ่งมะนาว ปลาสเตอร์เจี้ยนนึ่งซีอิ้ว ข้าวกล้องคีนัวผัดกระเทียมหน้าปลาสเตอร์เจี้ยนนึ่ง ข้าวกล้องคีนัวผัดกระเทียมหน้าปลาเทราต์นึ่ง ร้านโครงการหลวงทุ่งเริง ได้แก่ สลัดอะโวคาโด แคบหมู ข้าวโพดหวานสองสีนึ่งพร้อมทาน น้ำกุหลาบต้มยำ น้ำแบล็กเบอร์รี ร้านโครงการหลวงห้วยลึก ได้แก่ ชุดข้าวเสน่ห์ดอยหลวง หมูหลงดอย แกงฮังเลหมู ลาบเห็ดห้วยลึก ร้านโครงการหลวงตีนตก ได้แก่ เมนูน้ำพริกเห็ดหอม ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งดอกกาแฟ ไส้อั่วหมูเห็ดรวมร้านโครงการหลวงอินทนนท์ สลัดผลไม้คีนัวกุ้งทอดครีมเสาวรส อะโวคาโดธัญพืชกะทิสดวานิลลา ข้าวซอยสามสหาย ข้าวซอยปลาเทราต์ทอด ขนมจีนน้ำเงี้ยวซี่โครงหมู ร้านโครงการหลวงอ่างขาง ได้แก่ เมนูไก่อุ๊ปอ่างขาง หมั่นโถวทอด ลาบเห็ดอ่างขาง ยำยอดชาเห็ดรวม ไข่ไก่ต้มใบชาอ่างขาง เป็นต้น
- Royal Project Bistro ชั้น 3 โซนอีเดน ลิ้มรสกับมื้ออาหารสุดพิเศษในรูปแบบ Fine Dining ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากผลผลิตโครงการหลวง ที่ได้รังสรรค์เมนูอย่างพิถีพิถันเสิร์ฟเฉพาะลูกค้า Exclusive เท่านั้น เพียงช้อปสินค้าภายในงานโครงการหลวงและในศูนย์การค้าครบ 4,000 บาท ระหว่างวันที่ 8-14 สิงหาคม 2566 เปิดวันละ 2 รอบ 14.30-15.30 น. กับ 16.30-17.30 น. รอบละ 30 คน โดยนำใบเสร็จมายื่นที่เคาน์เตอร์ Bistro หน้างานโซนอีเดน ชั้น 3 เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์
- นิทรรศการและโครงการส่วนพระองค์ ชั้น 1 โซนบีคอน 2, 3, 4 เป็นจุดชมนิทรรศการดอกเอเดลไวส์ นิทรรศการหัตถกรรม ผ้ากัญชง และบุหงาโครงการหลวง พร้อมผลิตภัณฑ์ของโครงการส่วนพระองค์ 13 โครงการ ได้แก่ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย, โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, ปันน้ำใจ, โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ, มูลนิธิชัยพัฒนา ร้านภัทรพัฒน์, มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ร้านภูฟ้า, โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่จากดอยคำ ที่ขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่สายบิวตี้ กับ Doi Kham Beauty Tomato Collection น้ำมะเขือเทศสูตรบิวตี้ผสมผลไม้รวม อาทิ โทเมโท พิงค์ (TOMATO PINK) น้ำมะเขือเทศผสมฝรั่งชมพู, โทเมโท เวลเว็ต (TOMATO VELVET) มะเขือเทศผสมเบอร์รีรวมและทับทิม, โทเมโท โครอล (TOMATO CORAL) น้ำมะเขือเทศผสมแครอทและส้ม และนมอัดเม็ดรสชาติใหม่ "รสทุเรียน" ราชาแห่งผลไม้ไทยที่จะมาเปิดตัวและจำหน่ายภายในงานด้วย
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ของหน่วยงานสนับสนุนโครงการหลวง ได้แก่ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพของโครงการหลวงมาร่วมจำหน่ายมากมาย
ผู้ที่สนใจ มาเที่ยวชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพได้ในงาน "โครงการหลวง 54" ระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก CentralWorld, โครงการหลวง และ โครงการหลวง ดี อร่อย หรือสามารถคลิกชมคลิปวิดีโอ ไออุ่นจากขุนเขา เรื่องเล่าสู่ใจกลางเมือง และคลิปวิดีโอสินค้าไฮไลต์ภายในงานได้โดย คลิกที่นี่