ทำความรู้จัก 'นเรนทรา โมดี' นายกรัฐมนตรีอินเดีย เขามีความสำคัญอย่างไร?

ทำความรู้จัก 'นเรนทรา โมดี' นายกรัฐมนตรีอินเดีย เขามีความสำคัญอย่างไร?

มาทำความรู้จัก "นเรนทรา โมดี" นายกรัฐมนตรีอินเดีย ว่าทำไมเขาจึงมีความสำคัญกับประเทศเป็นอย่างมาก ผ่านผู้เขียน "สุรัตน์ โหราชัยกุล" รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์อินเดียศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันที่ 3 - 4 เมษายน 2568 นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หวังว่าจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับรัฐบาลไทยที่จะไม่เพียงกระชับสัมพันธไมตรีระหว่าง อินเดีย กับไทยเท่านั้น หากแต่จะยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เปี่ยมไปด้วยสารัตถะสำคัญ สร้างความมั่นคงในมิติต่างๆ ระหว่างกันเพื่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

สิ่งที่ทางฝ่ายไทยจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษคือ โมดีเป็นผู้นำที่มีความสามารถ เป็นผู้นำของโลกคนสำคัญคนหนึ่ง การเจรจาหารือจำเป็นต้องตระหนักเสมอว่าโมดีไม่ธรรมดาเลยด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมายาวนานถึง 25 ปี เริ่มต้นจากการเป็นมุขมนตรี รัฐคุชราต จนกระทั่งได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดีย ผู้นำระดับโลกที่มีประสบการณ์ต่อเนื่องและยาวนานเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากยิ่ง แม้ว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สาม แต่โมดีก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เป็นหนึ่งในผู้นำไม่กี่คนที่ชนะการเลือกตั้งระดับผู้นำประเทศเป็นสมัยที่สามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปี ค.ศ. 2024 นับเป็นปีที่เลวร้ายอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลทั่วโลกที่จะเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อสืบต่อการดำรงตำแหน่ง บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงพากันกล่าวว่า นเรนทรา โมดี ช่างเป็นผู้นำที่หาได้ยาก ที่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ท่ามกลางภาวะเช่นนี้

ตามรายงานของ มอร์นิ่ง คอนซัลท์ (Morning Consult) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนด้านการสำรวจข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก นเรนทรา โมดี ยังคงเป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

ในปี ค.ศ. 2014 เมื่อประชาชนอินเดียกำลังเบื่อหน่ายกับปัญหาคอร์รัปชันของรัฐบาลชุดก่อนหน้า โมดี ได้ก้าวเข้ามาเป็นแสงแห่งความหวังใหม่ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอำนาจมาเป็นเวลาหลายปี ทว่าแม้แต่ฝ่ายค้านของรัฐบาลโมดีก็ยังยอมรับว่า โมดียังคงเป็นผู้นำที่มือสะอาด และไม่มีข้อด่างพร้อยเรื่องทุจริตแม้แต่ครั้งเดียว โมดีได้ทำสงครามต่อต้านคอร์รัปชันในทุกด้านของอินเดีย ประชาชนให้ความเคารพต่อเขาในฐานะผู้นำที่มีเส้นทางชีวิตที่น่าทึ่ง จากลูกชายพ่อค้าขายชาธรรมดาๆ สู่นายกรัฐมนตรีของประเทศ ผู้คนชื่นชมเป็นพิเศษเพราะโมดีก่อร่างสร้างตนขึ้นมาโดยปราศจากอิทธิพลของตระกูลใหญ่ๆ หนุนหลัง

โมดีทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้อินเดียเป็น "วิศวพันธ์" (Vishwa Bandhu) กล่าวคือเป็นมิตรกับทุกชาติ ภายใต้การนำของโมดี อินเดียสามารถรักษามิตรภาพกับประเทศและกลุ่มประเทศต่างๆ ได้ แม้ว่าจะมีความขัดแย้งกันในระดับสากลก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ของอินเดียกับประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับด้วย

โมดีได้รับความเคารพและชื่นชมจากนานาชาติ ซึ่งเห็นประจักษ์จากที่มีประเทศถึง 24 ประเทศมอบรางวัลเกียรติยศสูงสุดแด่เขา

บรรดานักวิเคราะห์ยกย่องนายกรัฐมนตรีโมดีเป็นผู้นำที่มีแนวคิดสมัยใหม่ และเป็นผู้วางรากฐานให้อินเดียก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยอัตราความเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเปลี่ยนโฉมหน้าของอินเดียด้วยการมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อวกาศ และสตาร์ทอัพ

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ด้วยการบริหารของ โมดี เศรษฐกิจอินเดียได้ก้าวขึ้นจากอันดับที่ 11 สู่อันดับที่ 5 ของโลก นเรนทรา โมดี มุ่งมั่นที่จะเร่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป โดยตั้งเป้าให้อินเดียเป็นเศรษฐกิจอันดับ 3 ของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า และทำให้อินเดียเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี ค.ศ. 2047 (100 ปีหลังได้รับเอกราช)

โมดีอาจเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากที่สุดก็ว่าได้ โมดีใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางทั้งในงานบริหารและชีวิตส่วนตัว โครงการพีเอ็มคติศักติ (PM Gati Shakti) เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีในการบริหารประเทศ โมดียังเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีผู้ติดตามมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์ (X) และอินสตาแกรม ความสนใจของโมดีในด้านปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีขั้นสูง และคอมพิวเตอร์ควอนตัม กำลังสร้างโอกาสใหม่ๆ แก่เหล่าเยาวชนอินเดีย

ฝ่ายไทยเราต้องคิดสำหรับระยะสั้นและระยะยาว ลักษณะผู้นำแบบโมดี บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา