'เอพี' เขย่าอสังหาฯ ปี 68 ชูกลยุทธ์ 'สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด' ผุด 42 โครงการ 6.5 หมื่นล้าน

'เอพี' เขย่าอสังหาฯ ปี 68 ชูกลยุทธ์ 'สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด' ผุด 42 โครงการ 6.5 หมื่นล้าน

เอพี ไทยแลนด์ ปิดปี 67 กับความสำเร็จในทุกมิติ กำไรสุทธิ 5,020 ล้านบาท เดินหน้าต่อยอดครองความเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม ด้วยกลยุทธ์ "สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด" เปิดตัวโครงการใหม่ มูลค่า 65,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 55,000 ล้านบาท

ในยุคที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ แข่งขันกันอย่างดุเดือด การสร้างความแตกต่างและการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้แบรนด์สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดได้ สะท้อนผ่าน "เอพี ไทยแลนด์" บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย เคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งจากการปรับตัวให้ทันสมัย ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างโดดเด่น ภายใต้คำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบ "ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้" ให้กับทุกคน โดยปี 2568 พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เข้มข้น พัฒนาโครงการใหม่มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท 

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังคงเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่งผลต่อการจับจ่ายที่ไม่แข็งแรง เป็นอุปสรรคสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็เป็น "โอกาส" สำหรับผู้ประกอบการที่แข็งแรงในตลาด

"อุปสรรคคนอื่นกลายเป็นโอกาสของเราได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่า เอพีสามารถผ่าอุปสรรคและสร้างการเติบโตได้" 

\'เอพี\' เขย่าอสังหาฯ ปี 68 ชูกลยุทธ์ \'สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด\' ผุด 42 โครงการ 6.5 หมื่นล้าน

เป็นที่มาของกลยุทธ์ "สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด" ของ "เอพี ไทยแลนด์" ในปี 2568 ที่กำหนดทิศทางพัฒนาทุกมิติของที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในแบบที่ลูกค้าสามารถเลือกเองได้อย่างแท้จริงเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ภายใต้ 3 แนวทาง

  • แนวทางแรก "Diversity & Desires" การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เพียงแค่สร้างบ้าน แต่สร้างพื้นที่ที่สะท้อนถึงตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ โดยการเลือกทำเลที่ดีที่สุดเพื่อให้ทุกโครงการของเอพีเป็น "ที่สุดในชีวิต" ของลูกค้า
  • แนวทางที่สอง "Craft Space & Design" การออกแบบที่มีความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเพื่อให้ที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อน แต่ยังเป็นงานศิลปะที่สามารถสัมผัสได้ในทุกพื้นที่ ทั้งความสะดวกสบายและความงามที่ไม่เคยตกยุค 
  • แนวทางที่สาม "Elevation & Intuitive Living" การสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่ไม่ต้องคิดหรือจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะเอพีได้เตรียมการทั้งหมดให้แล้ว เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้นและสมบูรณ์แบบที่สุด

เปิดโครงการใหม่…สุดทุกมิติ

ปี 2568 เอพี ไทยแลนด์ ตั้งเป้าหมายใหญ่ในการขยายพอร์ตสินค้า เปิด 42 โครงการใหม่ มูลค่า 65,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 26,500 ล้านบาท ทาวน์โฮมและบ้านแฝด 18 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 20,200 ล้านบาท 

การเปิดตัวโครงการเหล่านี้ "ไม่ได้" เป็นแค่การขยายธุรกิจ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละเซกเมนต์

"จากเดิมกลุ่มลูกค้าจะเป็น GEN X และ GEN Y ขยับมาเป็น GEN Z ที่มีความเป็นตัวเองสูงมาก เอพี ต้องปรับตัวให้เข้ากับเจนเนอเรชันที่เปลี่ยนไป เช่น การสร้างบ้านสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้"

\'เอพี\' เขย่าอสังหาฯ ปี 68 ชูกลยุทธ์ \'สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด\' ผุด 42 โครงการ 6.5 หมื่นล้าน

เบอร์ 1 ทาวน์โฮมและบ้านแฝดที่ไม่หยุดนิ่ง

เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมและบ้านแฝด กล่าวว่า ในปี  2567 ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเอพีมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% จนทำให้วันนี้เรายังคงครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมและบ้านแฝดมากที่สุด 

ในปีนี้กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมและบ้านแฝดยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งในทุกมิติ โดยตั้งเป้าสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมสานต่อกลยุทธ์หลักขององค์กร ในการ “สร้างที่สุด...ให้เกิดขึ้นในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าก้าวไปสู่ที่สุดของชีวิต” โดยในปีนี้เรามีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครอบคลุมครบทั้ง 6 Sub-Brand ตั้งแต่ระดับราคา 1.49 - 25 ล้านบาท

ทั้งนี้ สร้างที่สุดแรกคือ การเป็นอันดับ 1 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดครอบคลุมทุกโซนของกรุงเทพฯ มากที่สุด ภายใต้กลยุทธ์ Zoning Expansion Strategy ถือเป็น key สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการที่ครอบคลุมทั้งในแง่ของจำนวน รูปแบบโครงการ และแพ็กเกจราคาที่หลากหลาย ที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจมีจำนวนโครงการที่กระจายครอบคลุมพื้นที่มากถึง 11 โซน กับจำนวนโครงการพร้อมอยู่มากที่สุดกว่า 70 โครงการ ซึ่งมั่นใจว่าสินค้าทาวน์โฮมและบ้านแฝดเอพีมีสินค้าที่พร้อมขาย พร้อมโอนมากที่สุดในอุตสาหกรรม

The Greatest Home เพื่อทุกเจเนอเรชัน

ในกลุ่มบ้านเดี่ยว "เอพี ไทยแลนด์" เปิดตัว 15 โครงการใหม่ มูลค่า 26,500 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด "The Greatest Home" เพื่อสร้างบ้านที่เข้าใจชีวิตของทุกเจนเนอเรชัน ทั้งด้านการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ มีความหรูหราเหนือกาลเวลา

ปีนี้บริษัทฯ เปิดตัว "Majestic Collection" ซึ่งเป็นคอลเลกชันบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี สำหรับลูกค้าที่ต้องการบ้านระดับสูงสุด พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ "THE PALAZZO" ทำเลกรุงเทพกรีฑา ราคา 75-120 ล้านบาท และทำเลปิ่นเกล้า-บรมฯ ราคา 50-85 ล้านบาท และบ้านกลางกรุง ระดับราคาตั้งแต่ 50-100 ล้านบาท พร้อมแบรนด์ "BEON" เจาะกลุ่มลักชัวรีที่มาพร้อมการออกแบบ Ultra Volume ให้ความรู้สึกของพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืน ปักหมุดทำเลนวลจันทร์ในช่วงครึ่งปีหลัง

\'เอพี\' เขย่าอสังหาฯ ปี 68 ชูกลยุทธ์ \'สร้างที่สุด...ให้ชีวิตดีที่สุด\' ผุด 42 โครงการ 6.5 หมื่นล้าน

LIFE Condo สร้างชีวิตที่ดีที่สุด

เอพี ไทยแลนด์ ยังคงต่อยอดจากความสำเร็จของธุรกิจคอนโดมิเนียม เปิดตัว 6 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่า 20,200 ล้านบาท พร้อมนำนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นภายใต้คอนเซปต์ "LIFE Condo" สนับสนุนการใช้ชีวิตที่สำเร็จอย่างแท้จริง โครงการเหล่านี้เน้นการสร้างพื้นที่ส่วนกลางและสเปซภายในห้องที่เป็นที่สุด ด้วยแนวคิดที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการที่ดียิ่งขึ้น 

"เอพี ไทยแลนด์ สร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างชัดเจน โดยเลือกลงทุนในที่ดินและพัฒนาโครงการที่สอดรับกับเทรนด์การใช้ชีวิตในอนาคต เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน"

ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายอสังหาริมทรัพย์ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 52,900 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 มียอดขายสุทธิสูงสุดในอุตสาหกรรมถึง 46,752 ล้านบาท มีรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ 47,125 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,020 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.70 เท่า เป็นไปตามนโยบายการบริหารจัดการสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนในระดับที่ไม่เกิน 1 เท่า