"ECOTOPIA" มัลติแบรนด์สโตร์รักษ์โลก สร้างความยั่งยืน
“การสร้างความยั่งยืน (Sustainability)” ไม่ใช่เป็นเพียงเทรนด์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นหน้าที่ที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจที่ต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจังทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ผู้คน ชุมชน และเศรษฐกิจ
ตลอดช่วงเวลากว่า 63 ปีของการทำธุรกิจ “บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด” มุ่งเน้นเรื่องของการสร้างความยั่งยืน สร้างคุณค่าร่วม(Shared Values) และผลกระทบเชิงบวกไปสู่ชุมชนสังคมและประเทศชาติ โดยตั้งแต่ปี 2008 ได้มีการจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
- สร้างคุณค่าร่วม สร้างความยั่งยืน
“นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์” ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ ECOTOPIA ว่าสยามพิวรรธน์ ถือเป็นบริษัทแรกๆ ของไทยที่ได้เริ่มต้นในการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนมาตลอด 60 กว่าปี โดยผ่านกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วม
ดังนั้น สิ่งที่สยามพิวรรธน์ทำ คือ การสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม พัฒนา และยั่งยืนไปด้วยกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
“ยุทธศาสตร์หลักสยามพิวรรธน์ในเรื่องความยั่งยืนต้องเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งสยามพิวรรธน์จะไม่เติบโตคนเดียวแต่จะสร้างพันธมิตร พาสเนอร์ คู่ค้า ดึงชุมชน และผู้ประกอบการ SME เข้ามามีส่วนร่วมทำให้เกิดการรวมพลังที่แข็งแกร่ง โดยพันธมิตรที่ร่วมกับเราต้องมีแนวคิดหลักการที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ECOTOPIA จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียงทฤษฎีแต่เกิดขึ้นได้จริง” นราทิพย์ กล่าว
- ต้นแบบความยั่งยืนเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ
สยามพิวรรธน์เปิด ECOTOPIA ในปี 2560 สะท้อนการเป็นผู้บุกเบิกที่กล้านิยามกระบวนทัศน์ใหม่ให้กับโลก ด้วยการนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์จากแนวคิดรักษ์โลกและ well-being เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจรักษ์โลกที่ครบวงจรยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย (Asia’s leading Eco Lifestyle Destination)
โดยร่วมมือกับ 12 สุดยอดครีเอเตอร์ และผู้ประกอบการรายย่อย พัฒนาและรังสรรค์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก มากกว่า 300 แบรนด์ และสินค้ากว่า 100,000 รายการ บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่
“นราทิพย์” เล่าต่อว่า ECOTOPIA ไม่ใช่โครงการเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นคุณค่าทางเศรษฐกิจร่วมด้วย ซึ่งการที่สยามพิวรรธน์ได้จัดทำเรื่องนี้ เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าเรื่องรักษ์โลก สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนสามารถทำควบคู่กับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้
สยามพิวรรธน์มีเป้าหมายชัดเจนในการทำให้ศูนย์การค้า ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เกิด Zero Waste
แนวคิดความยั่งยืนในการขับเคลื่อนธุรกิจ “สยามพิวรรธน์” ได้ดำเนินการผ่านโครงการหลากหลายอาทิ การเดินหน้าสู่การเป็น “องค์กรขยะเป็นศูนย์” ภายใต้โครงการ “Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste” ที่คำนึงถึงการ จัดการขยะแบบครบวงจรตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
- พฤติกรรมผู้บริโภค ผลิตสินค้ารักษ์โลก
การรณรงค์เพื่อส่งเสริมการคัดแยกขยะและจัดตั้งจุดรับวัสดุบรรจุภัณฑ์สะอาดที่ไม่ใช้แล้วแบบไดร์ฟทรูแห่งแรกในประเทศไทย นับเป็นการนำขยะเข้าสู่กลไกการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ แล้วส่งต่อไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบ ซึ่งบางส่วนนำเข้าสู่กระบวนการอัพไซคลิ่ง นำกลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม
“นราทิพย์” เล่าต่อไปว่าก่อนที่จะดำเนินการ ECOTOPIA สยามพิวรรธน์ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้องว่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน และกระบวนการรีไซเคิลอย่างไรบ้าง แล้วทางบริษัทจะเติมเต็มความรู้ทั้งแก่ผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงการต่างๆ ซึ่งโจทย์ในการทำล้วนมาจากผู้บริโภคทั้งสิ้น
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พวกเขาสนใจและใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม คัดแยกขยะอย่างมาก การจะดึงพวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมต้องเป็นกิจกรรมที่เห็นชัดเจนว่าธุรกิจทำเรื่องนั้นๆ จริง มีผลลัพธ์จริงที่พวกเขาสามารถรีเช็กได้
หากธุรกิจไหนทำเรื่องของความยั่งยืน รักษ์โลกจริงๆ คนรุ่นใหม่พร้อมจะเข้ามามีส่วนร่วมและพร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงยังเป็นกลุ่มที่จะไปชักชวนคนรุ่นเก่าให้เข้ามาร่วมปรับพฤติกรรม แยกขยะและใช้สินค้ารักษ์โลกได้
"ECOTOPIA มัลติแบรนด์สโตร์รักษ์โลก อีกหนึ่งทางเลือกมุ่งเน้นการปลุกจิตสำนึกการดำรงชีวิตตามแนวคิดรักษ์และฟื้นฟูโลกแบบครบวงจร เพราะตอนนี้ทุกคนเห็นภาพชัดเจน เป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในแง่ของธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม" นราทิพย์ กล่าว
- สินค้า เวิร์คช็อปตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น
ความรู้ทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ซึ่งพฤติกรรมที่ทุกคนทำในตอนนี้เริ่มเดือนร้อนตนเอง ครอบครัว และสังคม สิ่งที่สยามพิวรรธน์ทำ จึงเน้นการมีส่วนร่วม การให้ความรู้ผ่านกิจกรรม โครงการเวิร์คช็อปต่างๆแก่กลุ่มลูกค้า ซัพพลายเออร์ และขยายไปทุกเจเนอเรชั่น
“อุสรา ยงปิยะกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เล่าว่า การสร้างความยั่งยืนที่สยามพิวรรธน์ดำเนินการ เริ่มมาจากสโตร์เล็กๆ และขยายเพิ่มมากขึ้นจนตอนนี้มีสโตร์มากกว่า 1,000 ตารางเมตร
โดยสิ่งที่ทำจะเป็นการตอบโจทย์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาหาร การทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ความงาม แฟชั่น และงานฝีมือของชุมชน ทำให้ ECOTOPIA เป็นแหล่งรวมสินค้า Eco ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่ครบครันหลากหลายเพื่อโลกที่ดีขึ้น
นอกจากนั้น ทางบริษัท ยังมุ่งเน้นการให้ความรู้ผ่านกิจกรรมเวิร์คช็อปแก่คนหลากหลายเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็สามารถเข้าร่วมได้ เพราะทุกคนต้องร่วมแก้ปัญหา
- เศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างนิสัยใหม่
“เด็กรุ่นใหม่เป็นพลัง และเป็นผู้ที่ทำให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ใน ECOTOPIA องค์กรธุรกิจต้องตอบสนองเขา และทำให้คนรุ่นใหม่ ผู้บริโภครู้จักองค์กร เพื่อเขาจะได้เข้ามาร่วมและเผยแพร่ความรู้ออกไปได้มากขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็จะตามมา เพราะคงไม่มีใครอยากอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ” อุสรา กล่าว
เมื่อขยายสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นมีผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้ซัพพลายเออร์ หรือSME มีต้นทุนน้อยลงก็จะกลับมาสู่ผู้บริโภคที่ได้ใช้สินค้า Eco ในราคาที่ถูกลง อีกทั้ง SME มีรายได้ เกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สร้างนิสัยใหม่ได้ เพราะความยั่งยืนเป็นเรื่องของคนทั่วโลกและโอกาสแก่ธุรกิจ SME ไทย
- ECOTOPIA คอมมูนิตี้สำหรับคนรักษ์โลก
ผู้ประกอบการ SME ที่เข้ามาร่วม ECOTOPIA ต้องเป็นผู้ผลิตสินค้าปลอดภัย มีคุณภาพ ใช้วัสดุจากธรรมชาติ รีไซเคิล รวมถึงแรงงานที่ใช้ และการนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชน
“ปวีณา คชเสนี” ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ สยามดีสคัฟเวอรี่ บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล จำกัด เล่าว่า ECOTOPIA มีสินค้าที่หลากหลาย ซึ่งการที่สยามพิวรรธน์ได้มาร่วมงาน Sustainability Expo 2022 (SX2022) จะทำให้สินค้า Eco ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกกว่า 300 แบรนด์ เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 8 โซนได้แก่ 1. โซน Hygiene เน้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ 2.โซน Zero Waste สามารถนำบรรจุภัณฑ์มา Refill เพื่อช่วยลดขยะให้กับโลกได้
3.โซน Green แหล่งรวมต้นไม้ฟอกอากาศ และอุปกรณ์ทำสวน 4. โซน Healthy โซนอาหารเพื่อสุขภาพที่คัดเลือกวัตถุดิบออร์แกนิคจากธรรมชาติ 5. โซน Beautiful รวมผลิตภัณฑ์ความงามหลากหลายทั้งสินค้าออร์แกนิค และ Personal care ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ 6.โซน Up-cycled ผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำมารีไซเคิลใหม่ 7. โซน Stylish รวมแฟชั่นที่ทำมาจากฝ้ายออร์แกนิค, เศษผ้า และ 8. โซน Kind รวบรวมงานฝีมือและภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนและชาวบ้าน
“อยากให้ทุกคนหันมาใช้สินค้า Eco และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากขึ้น ซึ่งสยามพิวรรธน์ ไม่ได้ดูเฉพาะเรื่องของสินค้า ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังดูไปถึงกระบวนการผลิตว่าช่วยโลกหรือไม่ เพื่อทำให้เห็นว่าความยั่งยืนกับธุรกิจสามารถเดินคู่กันได้ และอยากให้ทุกคนลดการสร้างมลภาวะให้แก่โลกใบนี้” ปวีณา กล่าว
- ทำไมต้องมี “ECOTOPIA”?
การมาเป็น “ECOTOPIA” ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่ตั้งขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จทันที รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าเริ่มเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้แก่สยามพิวรรธน์ ตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งตอนนั้นสยามพิวรรธน์ ที่มีศูนย์การค้าหลายแห่ง เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการเป็นเพียงช้อปปิ้ง มอลล์ แต่อยากเป็นแหล่งเรียนรู้ และสถานที่พักผ่อนสำหรับทุกคน ดังนั้น แรกๆจะเป็นการทำให้ ศูนย์การค้าสยาม เป็นสถานที่ที่พักผ่อน และเรียนรู้
“สยามพิวรรธน์มองเรื่องความยั่งยืนมาตลอด และสร้างความยั่งยืนไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่พยายามสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่สังคม เริ่มจากเอาขยะทั้งศูนย์การค้า และทุกคนที่เช่าพื้นที่สยามพิวรรธน์ มาให้ทางศูนย์การค้า เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าให้แก่ขยะ การรีไซเคิล และหลังจากนั้นมุ่งเน้นสร้างแหล่งเรียนรู้ การให้ความรู้ เพื่อให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะถ้าจะขับเคลื่อนความยั่งยืนต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่เรา แต่เป็นพวกเรา” รศ.ดร.สิงห์ กล่าว