อบก. สร้างการรับรู้ คาร์บอนเครดิต ป่าไม้ คำตอบสู่เป้าหมาย NET ZERO
จากเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะยกระดับการแก้ไขอย่างเต็มที่และด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050
และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เห็นถึง ความสำคัญและความจำเป็นในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality / Net Zero GHG Emissions และ การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจกจากภาคส่วนต่าง ๆ จึงได้ริเริ่มดำเนิน โครงการจัดตั้งเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย หรือ Thailand Carbon Neutral Network หรือ TCNN ขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น/ชุมชนในการยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตามเจตนารมณ์ของประชาคมโลกที่ปรากฏในเป้าหมายของความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบันเครือข่าย TCNN มีจำนวนสมาชิก 401 องค์กร (ข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. 66) และมี “องค์กรผู้นำด้านการ จัดการก๊าซเรือนกระจก” (Climate Action Leading Organization: CALO) ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะลดการ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายคาร์บอนนิวทรัล / การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ใน ระดับองค์กรแล้ว 77 องค์กร จึงเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่องค์กร CALO มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการ ขับเคลื่อนการดำเนินงานการลดก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนนโยบายของประเทศไทย และเป้าหมายของ ประชาคมโลก โดยให้ความสนใจพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิต ป่าไม้ เพราะเล็งเห็นว่าการปลูกป่าหรือการเพิ่มพื้นที่ สีเขียว นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อนแล้ว ยังมี ผลประโยชน์ร่วมในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพที่ เป็นผลจากมลพิษ
เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวว่า “TGO ซึ่งเป็น องค์กรส่งเสริมและต่อต้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกรูปแบบ จากองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ และเมือง ผ่านกลไก การประเมินการปล่อย ในลักษณะต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณที่แต่ละภาคส่วน มีส่วนร่วมในการทำให้โลกร้อนขึ้น มากน้อยอย่างไร สอดรับกับนโยบายของภาครัฐ หรือข้อกำหนดจากสากล และยังส่งเสริมให้เกิดโครงการ ลด ละ กักเก็บ ก๊าซเรือนกระจก โดยเป็นผู้ประเมินผลลัพธ์ได้อย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือ ซึ่งได้แก่ โครงการคาร์บอนเครดิต T-VER นอกจากนั้น เรายังส่งเสริมให้สามารถใช้กลไกตลาดแลกเปลี่ยน (Offset) คาร์บอนเครดิต เพื่อใช้ลดคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ตามมาตรฐานสากลอีกด้วย TGO ได้มีการพัฒนาระเบียบวิธีการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification: MRV) ของกลไกการรับรองคาร์บอนเครดิตและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล โดยกระบวนการทวนสอบต้องผ่านผู้ประเมินภายนอก หรือ Third party ที่ดำเนินการ ด้วยความเป็นกลาง มีมาตรฐานการทำงานอย่างเป็นระบบสอดคล้องตามมาตรฐานการรับรองระบบงาน (ISO 14065) และผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ TGO ซึ่งมีองค์ประกอบของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และหน่วยงาน อิสระ ดังนั้น จึงเป็นส่วนสำคัญที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือ โปร่งใส ตรวจสอบได้”